ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อวันศุกร์ที่ผ่าน (8 เม.ย.) เนื่องจากแรงซื้อที่ส่งเข้าหนุนหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ และจากการที่นักลงทุนมีความเชื่อมั่นว่าผลประกอบการของบริษัทสหรัฐจะออกมาแข็งแกร่ง
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดบวก 38.24 จุด หรือ 0.53% แตะที่ 7217.02 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดบวก 33.61 จุด หรือ 0.83% แตะที่ 4061.91 จุด
ดัชนี FTSEurofirst 300 หุ้นกลุ่มบลูชิพในตลาดยุโรปปิดบวก 0.4% แตะที่ 1,148.45 จุด
ตลาดหุ้นยุโรปได้แรงหนุนจากคำสั่งซื้อที่ส่งเข้าหนุนหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ หลังจากราคาโลหะในตลาดลอนดอนทะยานขึ้นเมื่อวันศุกร์ โดยหุ้นบีเอชพี บิลลิตันปิดบวก 2.7% หุ้นริโอทินโตปิดพุ่ง 3.2% หุ้นเฟรสนิลโล ปิดบวก 2.4% และคาซัคมิส ผู้ผลิตทองแดงรายใหญ่สุดของคาซักสถาน ปิดบวก 1.9%
ส่วนหุ้นวอลโลเรซ์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตท่อเหล็กรายใหญ่ของฝรั่งเศส ปิดพุ่ง 4.7% หลังจากเครดิตสวิสปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าวขึ้นสู่ระดับ "outperform" จากระดับ "neutral"
หุ้นไชร์ซึ่งเป็นบริษัทผลิตยารายใหญ่ของยุโรป ปิดบวก 1.6% ส่วนหุ้นแอร์ฟรานซ์-เคแอลเอ็ม กรุ๊ป ซึ่งเป็นสายการบินรายใหญ่สุดของฝรั่งเศส ปิดร่วง 1.4% หลังจากราคาน้ำมันดิบ NYMEX ทะยานขึ้นแตะระดับ 111 ดอลลาร์/บาร์เรลเป็นครั้งแรกในรอบ 30 เดือน
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังได้รับปัจจัยบวกจากข่าวที่ว่า เหตุการณ์แผ่นดินไหว 7.4 ริกเตอร์ที่จังหวัดมิยากิของญี่ปุ่นเมื่อค่ำวันพฤหัสบดีที่ผ่านมานั้น ไม่ได้สร้างความเสียหายต่อโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกุชิม่า ไดอิจิ
นักลงทุนจับตาดูรายงานผลประกอบการของบริษัทสหรัฐ โดยเชื่อมั่นว่าบริษัทสหรัฐจะรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่ง ทั้งนี้บริษัทอัลโค อิงค์ จะเปิดเผยผลประกอบการหลังจากตลาดปิดทำการในวันจันทร์ ขณะที่เจพีมอร์แกน และกูเกิล จะเปิดเผยผลประกอบการในสัปดาห์นี้