นายวีระ เหล่าวิทวัส กรรมการผู้จัดการ บมจ.โรงพิมพ์ตะวันออก(EPCO)เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า ภายหลังจากที่บมจ.พี พลัส พี(PLUS)เข้าครอบงำกิจการ EPCO แล้ว ทาง PLUS และ EPCO ก็คงจะมีการร่วมมือกันทางธุรกิจได้เป็นอย่างดี โดยถ้าเป็นงานสิ่งพิมพ์ก็ส่งมาที่ EPCO แต่ถ้าเป็นงานผลิตสื่อต่างๆ ก็ส่งให้ PLUS ซึ่งภาพโดยรวมของธุรกิจสิ่งพิมพ์ในอีก 10 ปีข้างหน้ามองว่าจะยังมีโอกาสที่จะขยายตัวได้สูง
ทั้งนี้ นโยบายของทาง PLUS ต้องการให้ EPCO จะรุกธุรกิจมากขึ้น และมีเป้าหมายจะให้ EPCO มียอดขายเพิ่มเป็น 1,000 ล้านบาท จากที่ปกติทำได้ราว 700 ล้านบาท ซึ่งการจะทำให้ยอดขายเติบโตได้เร็ว ก็คงจะต้องเทคโอเวอร์กิจการอื่นเข้ามาควบรวม จึงจะสามารถทำให้ยอดขายเติบโตเร็วกว่าที่จะขยายด้วยตัวของเราเอง
"ก็เห็นว่าตอนนี้ได้มีการคุยกับหลายเจ้าเหมือนกัน แต่ยังไม่มีผลสรุปออกมา ซึ่งก็ยังไม่รู้ว่าจะใช้เงิน PLUS ในการเทคโอเวอร์กิจการอื่น หรือจะใช้เงิน EPCO แต่ปัจจุบันเงินในมือของ EPCO ก็มีเกือบ 200 ล้านบาท ซึ่งก็คิดว่ามีเพียงพอที่จะเข้าไปเทคโอเวอร์บริษัทฯอื่นได้"นายวีระ กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"
นายวีระ กล่าวต่อว่า "ตอนนี้ผมยังต้องทำงานร่วมกันไปสักพักหนึ่งก่อน แต่ต่อไปก็ยังไม่รู้ เพราะต้องขึ้นอยู่กับผู้ถือหุ้นใหม่ ซึ่งก็มีความเป็นไปได้ที่อาจจะมีการแต่งตั้งผู้บริหารคนใหม่เข้ามาก็ได้ ผมรับบริหารเท่านั้น ดังนั้นจึงไม่มีสิทธิ์มากนัก ซึ่งผมเป็นคนที่ทำธุรกิจค่อนข้าง Conservative จะไม่รุกมาก เพราะกลัวปัญหาต่าง ๆ จะเกิดขึ้น ที่กังวลใจคือในเรื่องการเก็บเงินต้องดูแลอย่างใกล้ชิด"
อนึ่ง EPCO อยู่ระหว่างถูกทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์(เทดเดอร์ออฟเฟอร์) โดยมีผู้ทำคำเสนอซื้อ คือ PLUS, บริษัท มันตรา แอสเซ็ท จำกัด, บมจ. อควา คอร์เปอเรชั่น และ นางโฉมพิศ บุนนาค ระยะเวลาทำคำเสนอซื้อตั้งแต่วันที่ 21 มี.ค.54 ถึงวันที่ 28 เม.ย.54 ในราคาเสนอซื้อ 1.94 บาท/หุ้น
นายวีระ กล่าวว่า บริษัทฯคาดว่าผลกำไรงวดไตรมาส 1/54 น่าจะมีการเติบโตประมาณ 20% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และถ้าเทียบกับงวดไตรมาส 4/53 ก็คาดว่าจะมีกำไรเติบโต 15% ส่วนรายได้งวดไตรมาส 1/54 ก็คาดว่าจะเติบโต 26% จากงวดเดียวกันของปีก่อน
ทั้งนี้ บริษัทฯได้มีคำสั่งซื้อที่ค้างมาจากปีที่แล้วส่วนหนึ่ง และยังได้งานใหม่เพิ่มเข้ามาอีก โดยเฉพาะการพิมพ์หนังสือแบบเรียน ซึ่งจะมีความต่อเนื่องไปถึงต้นไตรมาส 2/54 ด้วย ดังนั้นงบการเงินในไตรมาส 2/54 ก็คาดว่าน่าจะออกมาดีอย่างต่อเนื่องด้วยเช่นกัน
"ส่วนงานที่ได้จากการเลือกตั้งใหม่ ก็คิดว่าบริษัทฯคงจะรับผลบวกทางอ้อมมากกว่า เพราะบริษัทฯจะต้องขอมัดจำในการพิมพ์งานให้ล่วงหน้า 50% ที่เหลือค่อยจ่ายก่อนเมื่อส่งงานให้ ดังนั้นคงจะมีบางเจ้าที่ไม่พร้อม"นายวีระ กล่าว
กรรมการผู้จัดการ EPCO กล่าวว่า สำหรับผลการดำเนินงานในปี 54 เชื่อว่าจะมีการการเติบโตที่ดี โดยคาดว่าจะมีกำไรสุทธิประมาณ 130 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 53 ที่มีกำไรสุทธิ 112 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากความพยายามในการหางานให้มากขึ้น โดยเฉพาะจากยูนิเซฟ และงานที่ได้จากประเทศลาวด้วย โดยปีที่แล้วบริษัทฯได้มีการส่งออกงานพิมพ์ไปที่ลาวเกือบ 30 ล้านบาท และปีนี้ก็คาดว่าจะได้เพิ่มขึ้น
"ตอนนี้ก็รอ Confirm งานจากที่ประเทศลาวอยู่ประมาณ 20 ล้านบาท ซึ่งเป็นงานพิมพ์หนังสือแบบเรียนให้ลาว งานตรงนี้เป็นเงินช่วยเหลือลาว และเรายังรับงานจากพม่าด้วย โดยปีที่แล้วเรารับงานจากพม่า 25 ล้านบาท ปีนี้คงจะได้ไม่น้อยกว่าปีทีแล้ว อีกทั้งก็พยายามหางานจากยูนิเซฟ ซึ่งก็มีงานพิมพ์ให้กับทางติมอร์, แอฟริกา เป็นต้น"กรรมการผู้จัดการ EPCO กล่าว