ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กวิตกนิวเคลียร์ญี่ปุ่น ฉุดดาวโจนส์ปิดร่วง 117.53 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday April 13, 2011 06:17 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (12 เม.ย.) หลังญี่ปุ่นเพิ่มระดับความรุนแรงของวิกฤตนิวเคลียร์ ขณะที่การดิ่งลงอย่างหนักของราคาน้ำมันดิบได้ฉุดให้หุ้นกลุ่มพลังงานเคลื่อนไหวในแดนลบ และการเปิดเผยยอดขายของอัลโค อิงค์ที่น้อยเกินคาดได้สร้างความผิดหวังต่อนักลงทุน

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดร่วงลง 117.53 จุด หรือ 0.95% แตะที่ 12,263.58 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดลบ 10.30 จุด หรือ 0.78% แตะที่ 1,314.16 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดลดลง 26.72 จุด หรือ 0.96% แตะที่ 2,744.79 จุด

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า บรรยากาศการซื้อขายในตลาดเผชิญกับปัจจัยลบจากสถานการณ์นิวเคลียร์ในญี่ปุ่นที่เลวร้าย โดยเมื่อวานนี้รัฐบาลญี่ปุ่นได้ตัดสินใจยกระดับความรุนแรงของอุบัติเหตุซึ่งเกิดขึ้นที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกิชิม่า ไดอิจิ เป็นระดับที่ 7 จากเดิมที่ระดับ 5 โดยระดับ 7 ถือเป็นระดับสูงสุดและร้ายแรงที่สุดตามมาตรวัดสากล และเป็นระดับความรุนแรงเท่ากับหายนะที่โรงไฟฟ้าเชอร์โนบิลเมื่อปี 2529

การตัดสินใจดังกล่าวมีขึ้นหลังจากคณะกรรมการความปลอดภัยด้านนิวเคลียร์แห่งชาติของญี่ปุ่นได้เปิดเผยการคำนวณเบื้องต้นว่า โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกุชิม่า ไดอิจิ ได้ปล่อยสารกัมมันตรังสีในอัตราที่สูงถึง 10,000 terabecquerels/ชั่วโมง หลังจากเกิดแผ่นดินไหวรุนแรง 9.0 ริกเตอร์และตามมาด้วยคลื่นสึนามิทางฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมา

นอกจากนี้ วิกฤตโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ญี่ปุ่นได้จุดชนวนความวิตกกังวลต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่น และส่งผลกระทบต่อมุมมองในแง่บวกของภาคธุรกิจขนาดเล็กของสหรัฐซึ่งปรับตัวลดลง 2.6 จุด สู่ระดับ 91.9 จุด

นักวิเคราะห์แสดงความเห็นว่า วิกฤตนิวเคลียร์ครั้งนี้จะทำให้เศรษฐกิจของญี่ปุ่นชะลอตัวลงในระยะสั้น ซึ่งนั่นจะฉุดรั้งการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกด้วย

ราคาน้ำมันดิบร่วงลงกว่า 3% หลังจากที่โกลด์แมน แซคส์ ออกโรงเตือนถึงภาวะขาลงของตลาดน้ำมัน ซึ่งทำให้หุ้นกลุ่มพลังงานถูกเทขายและเคลื่อนไหวในแดนลบ โดยมีหุ้นเชฟรอนร่วงลง 3% และหุ้นเอ็กซอนโมบิลทรุดตัว 2%

ขณะเดียวกัน การรายงานยอดขายของบริษัทอัลโค อิงค์ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาได้สร้างความผิดหวังต่อนักลงทุนเนื่องจากยอดขายน้อยกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ส่งผลให้หุ้นอัลโค อิงค์ ตกลง 6% นอกจากนี้ นักลงทุนกำลังจับตาการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทอื่นๆ ด้วยเช่นกัน โดยเจพี มอร์แกน เชส แอนด์ โค, กูเกิล อิงค์ และแบงก์ ออฟ อเมริกา มีกำหนดรายงานผลประกอบการในสัปดาห์นี้

ด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยในรายงานการค้าประจำเดือนว่า ยอดส่งออกของสหรัฐปรับตัวลดลง 1.4% ในเดือนก.พ. หลังที่เคยขยายตัวเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2.6% ในเดือนม.ค. ทั้งนี้ ยอดส่งออกของสหรัฐในเดือนก.พ.ลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้และยังเป็นสัญญาณที่แสดงถึงความวิตกกังวลต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ