ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดร่วง 140.24 จุดหลัง S&P ลดแนวโน้มเครดิตสหรัฐ

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday April 19, 2011 06:40 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (18 เม.ย.) หลังจากสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ปรับลดแนวโน้มความน่าเชื่อถือระยะยาวของสหรัฐลงสู่ระดับ "เชิงลบ" เพราะกังวลว่ารัฐบาลสหรัฐอาจจะไม่สามารถลดการขาดดุลงบประมาณได้ นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจจีน หลังจากจีนประกาศเพิ่มเพดานกันสำรองเงินฝากของธนาคารพาณิชย์อีก 0.5% เพื่อควบคุมเงินเฟ้อ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วงลง 140.24 จุด หรือ 1.14% ปิดที่ 12,201.59 จุด ดัชนี S&P 500 ลดลง 14.54 จุด หรือ 1.10% ปิดที่ 1,305.14 และดัชนี Nasdaq ปรับตัวลง 29.27 จุด หรือ 1.06% ปิดที่ 2,735.38 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 4.6 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วน 4 ต่อ 1

ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงทันทีที่เอสแอนด์พีประกาศลดแนวโน้มความน่าเชื่อถือระยะยาวของสหรัฐลงสู่ระดับ "เชิงลบ" จากเดิม "มีเสถียรภาพ" โดยระบุว่า ปัญหาการขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลอาจส่งผลกระทบต่อแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในอีก 2 ปีข้างหน้า

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เอสแอนด์พีได้คงอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐไว้ที่ AAA แต่ได้แสดงความกังวลว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายกำหนดนโยบายของสหรัฐอาจจะไม่สามารถแก้ปัญหาการขาดดุลงบประมาณและหนี้สาธารณะ ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวจะทำให้สหรัฐตกอยู่ในความเสี่ยงและอาจทำให้อันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐถูกปรับลดลงด้วย

บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กถูกกดดันจากการที่จีนประกาศเพิ่มเพดานกันสำรองเงินฝากของธนาคารพาณิชย์อีก 0.5% โดยมีเป้าหมายที่จะดูดซับสภาพคล่องออกจากระบบเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ และเพื่อชะลอการขยายตัวที่ร้อนแรงเกินไปของเศรษฐกิจภายในประเทศ

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับปัจจัยลบจากรายงานของสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติของสหรัฐ (NAHB) ที่ระบุว่า ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัย ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเชื่อมั่นของกลุ่มผู้สร้างบ้าน ร่วงลงแตะระดับ 16 จุดในเดือนเม.ย. จากเดือนมี.ค.ที่ระดับ 17 จุด

หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกัน ปิดร่วงลง 3.12% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงหนักสุดในบรรดาหุ้นบลูชิพที่คำนวณในดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ขณะที่หุ้นคาเตอร์พิลลาร์ปิดร่วง 3.09% หุ้นอัลโค อิงค์ ปิดดิ่งลง 2.36%

ส่วนหุ้นซิตี้กรุ๊ปปิดทรงตัวที่ 4.42 ดอลลาร์ หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด และหุ้นโบอิ้งปิดบวก 0.26%

นักลงทุนจับตาดูรายงานผลประกอบการของบริษัทสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงธนาคารรายใหญ่อย่างโกลด์แมน แซคส์ และเวลส์ฟาร์โก พร้อมกับจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันอังคาร กระทรวงพาณิชย์จะเปิดเผยข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนมี.ค. วันพุธ สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติจะรายงานยอดขายบ้านมือสองเดือนมี.ค. วันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, คอนเฟอเรนซ์ บอร์ด จะเปิดเผยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือนมี.ค. และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟียจะเปิดเผยผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจเดือนเม.ย. ส่วนวันศุกร์ ไม่มีรายงานข้อมูลเศรษฐกิจเนื่องจากเป็นวันหยุด Good Friday


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ