TMB เผย Q1/54 กำไรโต 38.8% NPL ลดลงต่อเนื่อง

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday April 19, 2011 18:19 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ธนาคารทหารไทย(TMB) มีผลการดำเนินงานเติบโตอย่างต่อเนื่อง เผยธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 1,096 ล้านบาท ในไตรมาสแรกของปี 54 เพิ่มขึ้น 38.8% เมื่อเทียบกับกำไรสุทธิ 790 ล้านบาท ในไตรมาสเดียวกันของปี 53 หรือเพิ่มขึ้น 33.3% เมื่อเทียบกับกำไรสุทธิ 822 ล้านบาท ในไตรมาส 4/53

นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TMB กล่าวว่า กำไรสุทธิจากการดำเนินงานในไตรมาสแรกของปี 54 เกิดจากพัฒนาการที่ดีของรายได้จากการดำเนินงาน ซึ่งได้แก่ รายได้ดอกเบี้ยรับสุทธิ กำไรจากธุรกรรรมที่เกี่ยวข้องกับอัตราแลกเปลี่ยน ค่าธรรมเนียมและค่าบริการธนาคาร ตลอดจนคุณภาพสินเชื่อที่ปรับปรุงให้ดีขึ้น

“ผลการดำเนินงานของธนาคารที่มีกำไรสุทธิเติบโตอย่างต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นถึงประสิทธิภาพของการดำเนินการตามแผนงานที่ชัดเจนเพื่อวางรากฐานที่แข็งแกร่ง สร้างความแตกต่างทางการตลาด และการเติบโตอย่างมีคุณภาพและยั่งยืน ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา กอรปกับการตอบรับที่ดีของลูกค้าที่มาใช้บริการเพราะธนาคารสามารถตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างตรงจุดและมีประสิทธิภาพ"

ในไตรมาสแรกของปีนี้สินเชื่อด้อยคุณภาพลดลงอย่างต่อเนื่องตามเป้าหมายในการลดสัดส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพลงอีก 2% ภายในสิ้นปี โดย ณ วันที่ 31 มี.ค.54 สินเชื่อด้อยคุณภาพของธนาคารและบริษัทย่อยมีจำนวน 34,682 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 7.51% ของเงินให้สินเชื่อรวม ซึ่งลดลง 1,365 ล้านบาท จากเดิม 36,047 ล้านบาท หรือ คิดเป็นสัดส่วน 8.26% ของเงินให้สินเชื่อรวม เมื่อสิ้นปี 53

ทั้งนี้ สำหรับงบการเงินเฉพาะธนาคารไตรมาส 1/54 สินเชื่อด้อยคุณภาพมีจำนวน 31,993 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 7.0% ของเงินให้สินเชื่อรวมลดลง 1,297 ล้านบาท จาก 33,290 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 7.67% ของเงินให้สินเชื่อรวม ณ สิ้นปี 53

ในไตรมาสที่ 1/54 สินเชื่อรวมของธนาคารเติบโตขึ้น 4.1% โดยงบการเงินเฉพาะธนาคาร สินเชื่อคุณภาพเพิ่มขึ้น 5% เนื่องจากการเติบโตของสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ ในขณะที่สินเชื่อด้อยคุณภาพลดลง 3.9%

ธนาคารมีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งและมีสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องคิดเป็นสัดส่วน 29.3% ของสินทรัพย์รวม สัดส่วนสินเชื่อต่อเงินฝาก อยู่ที่ 86.09 % เมื่อเทียบกับ 88.0% ณ สิ้นปี 53 และหากคำนวณรวมตั๋วแลกเงิน (Bill of Exchange) สัดส่วนสินเชื่อต่อเงินฝากจะอยู่ที่ 79.98% เมื่อเทียบกับ 82.67% ณ สิ้นปี 53

นายบุญทักษ์ กล่าวด้วยว่า ธนาคารจะนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่มอย่างตรงจุด ตามแนวคิด“Make THE Difference"มุ่งเสริมศักยภาพบุคลากรให้มีความรู้ความสามารถในการให้บริการลูกค้าอย่างมีคุณภาพสูงยิ่งขึ้น และเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานทุกด้านอย่างต่อเนื่อง เพื่อการเติบโตอย่างมีคุณภาพและยั่งยืนต่อไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ