ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (19 เม.ย.) เพราะได้แรงหนุนจากรายงานตัวเลขสร้างบ้านของสหรัฐที่ปรับตัวขึ้นในเดือนมี.ค. และผลประกอบการไตรมาสแรกที่แข็งแกร่งเกินคาดของบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 65.16 จุด หรือ 0.53% แตะที่ 12,266.75 จุด ดัชนี S&P 500 ขยับขึ้น 7.48 จุด หรือ 0.57% ปิดที่ 1,312.62 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดบวก 9.59 จุด หรือ 0.35% แตะที่ 2,744.97 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 3.9 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 1 ต่อ 1
ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ หลังจากร่วงลงอย่างหนักเมื่อวันจันทร์ อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลกับข่าวสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ประกาศลดแนวโน้มความน่าเชื่อถือของสหรัฐลงสู่ระดับ "เชิงลบ" พร้อมกับเตือนว่าสถานะการคลังที่อ่อนแอและความขัดแย้งเกี่ยวกับร่างงบประมาณในสภาคองเกรส อาจทำให้เอสแอนด์พีต้องปรับลดอันดับความน่าเชื่อของสหรัฐ
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านในเดือนมี.ค.พุ่งขึ้น 7.2% แตะที่ 549,000 ยูนิตต่อปี มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ 520,000 ต่อปี ส่วนตัวเลขการอนุญาตสร้างบ้านในเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 11.2% แตะที่ 594,000 ยูนิต มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ 540,000 ยูนิต
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นอกเหนือจากตัวเลขการสร้างบ้านที่แข็งแกร่งของสหรัฐแล้ว ตลาดยังได้ปัจจัยหนุนหลังจากบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสันเปิดเผยว่า กำไรในไตรมาสแรกของบริษัทอยู่ที่ระดับ 3.5 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ในวอลล์สตรีท และข่าวดังกล่าวยังช่วยหนุนหุ้นจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ปิดพุ่งขึ้น 3.7% ซึ่งเป็นการปรับขึ้นแข็งแกร่งในบรรดาหุ้นบลูชิพที่คำนวณในดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์
อย่างไรก็ตาม ตลาดเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ หลังจากโกลด์แมน แซคส์ สถานบันการเงินรายใหญ่ของสหรัฐเปิดเผยว่า กำไรของบริษัทปรับตัวลดลง 21% แตะที่ 2.74 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสแรก หลังจากบริษัทต้องจ่ายเงินปันผลมูลค่า 1.64 พันล้านดอลลาร์ให้กับบริษัทเบิร์กเชียร์ แฮทธาเวย์ อิงค์ ของนายวอร์เรน บัฟเฟตต์ ซึ่งข่าวดังกล่าวส่งผลให้ราคาหุ้นโกลด์แมน แซคส์ ร่วงลง 1.25%
หุ้นฮาร์ลีย์-เดวิดสัน ปิดลบ 5.3% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่น้อยกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ขณะที่หุ้นยูไนเต็ด สตีล คอร์ป ปิดบวก 4.5% ส่วนหุ้นเท็กซัส อินสตรูเมนท์ปิดร่วงลงกว่า 1% หลังจากบริษัทเปิดเผยว่าเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในญี่ปุ่นอาจส่งผลกระทบต่อผลประกอบการในไตรมาสแรกของบริษัท
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันพุธ สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติจะรายงานยอดขายบ้านมือสองเดือนมี.ค. วันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, คอนเฟอเรนซ์ บอร์ด จะเปิดเผยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือนมี.ค. และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟียจะเปิดเผยผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจเดือนเม.ย. ส่วนวันศุกร์ ไม่มีรายงานข้อมูลเศรษฐกิจเนื่องจากเป็นวันหยุด Good Friday