นายเจริญ จันทร์พลังศรี กรรมการผู้จัดการ บมจ.ไทยโพลีคอนส์ (TPOLY) เปิดเผยว่า มีโอกาสที่จะปรับเป้าการเติบโตของรายได้ในปี 54 เพิ่มขึ้นจากเดิมที่บริษัทตั้งเป้ามีรายได้ 2.5 พันล้านบาท หรือ เติบโต 20% จากปี 53 ที่มีรายได้ ประมาณ 2 พันล้านบาท เนื่องจากปริมาณที่บริษัทได้รับงานมากขึ้น และยังมี backlog กว่า 3.8 พันล้านบาท โดยจะรับรู้ปีนี้ประมาณ 60% หรือราว 2 พันล้านบาท และที่เหลือในปีถัดไป
ทั้งนี้บริษัทยังมีงานที่อยู่ระหว่างการเข้าไปประมูลหลายโครงการ ทั้งงานภาครัฐและเอกชน ซึ่งในส่วนของงานภาคเอกชนตอนนี้อยู่ระหว่างการพูดคุย และคาดว่าจะได้รับงานดังกล่าว ซึ่งมีมูลค่างานประมาณ 1 พันล้านบาท ขณะเดียวกันในส่วนงานภาครัฐ ก็จะเข้าไปประมูลงานอาคาร มูลค่า 3 พันล้านบาท โดยหวังว่าจะได้ประมาณ 2 พันล้านบาท นอกจากนี้บริษัทจะเข้าร่วมประมูลงานอื่นๆ เพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งก็จะส่งผลต่อปริมาณงานที่เพิ่มขึ้นในอนาคต และจากปริมาณที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวส่งให้บริษัทมีแนวโน้มที่จะปรับเป้ารายได้ในปี 54 เพิ่ม
"หลังไตรมาส 2/54 น่าจะเห็นอะไรดี ๆ โอกาสที่จะปรับเป้ารายได้ในปีนี้เพิ่มก็ค่อนข้างสูง เพราะจากปริมาณงานที่มากขึ้น จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และโครงการเมกะโปรเจคต์ของทางการ กระตุ้นให้เกิดการลงทุน ซึ่งรวมถึงเราได้รับผลบวกนั้นไปด้วย เพราะดูได้จากงานที่เราได้ทำ และตอนนี้เราก็จะขยับไปรับงานที่มีขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อสร้างความมั่งคงให้กับบริษัท"นายเจริญ
อย่างไรก็ตาม บริษัทเชื่อว่าจะเห็นการเติบโตที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และบริษัทวางเป้าหมายการเติบโตในช่วง 3 ปีข้างหน้าจะมีรายได้ประมาณ 5.6-5.7 พันล้านบาทได้ เพราะจะมีรายได้เพิ่มเข้ามาจากธุรกิจไบโอแมส ซึ่งเป็นธุรกิจใหม่ ที่จะเริ่มทยอยเห็นการรับรู้รายได้จากธุรกิจไบโอแมสเข้ามาบางส่วน และในปี 57 ถึงจะเห็นชัดเจนว่าจะมีรายได้เข้ามาประมาณ 600 ล้านบาท/ปี
ในส่วนของธุรกิจไบโอแมสในปี 54 คงจะเห็นการสร้าง 3 โรง ได้ กำลังการผลิตไม่เกิน 10 เมกะวัตต์ จากเดิมที่วางแผน 1-2 โรงเท่านั้น โดยทั้ง 3 แห่งจะอยู่ในภาคใต้หมด เพราะไม่มีคู่แข่ง โดยในไตรมาส 2/54 น่าจะเห็นการก่อสร้างจำนวน 2 โรง โดยโรงงานแห่งแรกที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เบื้องต้นคาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณโรงละ 700 ล้านบาท ขณะที่โรงที่ 2 จะอยู่ที่จ.นครศรีธรรมราช
"ธุรกิจดังกล่าวถือเป็นธุรกิจที่ค่อนข้างดี มี Net profit margin สูง ประมาณ 25-30% นอกจากนี้บริษัทยังอยู่ระหว่างการศึกษาการลงทุนในรูปแบบใหม่ๆ เพิ่มขึ้น เพื่อสร้างรายได้ให้กับบริษัทและผู้ถือหุ้น" นายเจริญ กล่าว