บมจ.ศุภาลัย(SPALI) เตรียมพิจารณาปรับขึ้นราคาขายโครงการทั้งบ้านและคอนโดมิเนียมราว 10% ภายในปีนี้ตามต้นทุนที่สูงขึ้น โดยในปีนีบริษัทมีแผนเปิดโครงการใหม่รวม 16 โครงการ ซึ่งช่วงต้นปีเปิดตัวไปแล้ว 2 โครงการ และในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ทำยอดขายได้ถึง 4 พันล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน
นายประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร SPALI กล่าวว่า บริษัทจะพยายามรักษาอัตรากำไรสุทธิในปีนี้ไว้ที่ระดับ 20% ใกล้เคียงกับปีก่อน แม้ว่าอัตรากำไรขั้นต้นคาดว่าจะลดลงเหลือ 38-39% จาก 40% ในปี 53 เนื่องจากต้นทุนเพิ่มขึ้น
ดังนั้น คาดว่ารายได้และกำไรในปีนี้จะดีกว่าปีก่อน ตามภาวะเศรษฐกิจที่เติบโต และรายได้ของประชาชนที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับปัจจุบันบริษัทมียอดขายรอโอนเกือบ 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะรับรู้ภายในปีนี้ประมาณ 1.3 หมื่นล้านบาท
ด้านนายอธิป พีชานนท์ กรรมการผู้จัดการ SPALI กล่าวว่า ยอดขายในไตรมาส 1/54 คาดว่าจะทำได้ราว 3 พันล้านบาท ดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนเล็กน้อย และปัจจุบัน 4 เดือนมียอดขายแล้วราว 4 พันล้านบาท คาดว่ายอดขายในช่วงเดือน เม.ย.จะปรับเพิ่มขึ้นมาก หลังจากมีการเปิดตัวคอนโดมิเนียมแห่งใหม่
"ยอดขายไตรมาส 1 ถือว่าดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนเล็กน้อย แม้ว่าจะไม่มีมาตรการภาษีกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ และก็ไม่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงและเสื้อเหลืองเหมือนปีก่อน รายได้เฉลี่ยเดือนละ 1 พันล้านบาท ปัจจุบันก็มีประมาณ 4 พันล้านบาทแล้ว"
ล่าสุด วันนี้ SPALI เปิดตัวคอนโดมิเนียม"ศุภาลัย พรีมา ริวา"มูลค่าโครงการ 5.5 พันล้านบาท เป็นอาคาร 47 ชั้น จำนวน 871 ยูนิต อาคารริมน้ำอีก 33 ยูนิต โฮมออฟฟิศ 37 ยูนิต ร้านค้าอีก 16 ยูนิต บนพื้นที่ 13 ไร่ ขนาดยูนิตละ 43-333.5 ตร.ม. ราคาขายเริ่มต้นที่ 2.4-24.4 ล้านบาท ตั้งอยู่บนถนนพระราม 3 ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา มียอดจองแล้ว 600 ล้านบา คาดว่าหลังจากเปิดพรีเซลในสุดสัปดาห์นี้จะมียอดจองเพิ่มเป็น 1 พันล้านบาท ยอดขายทั้งปีคาดว่าจะทำได้ 2 พันล้านบาท
นายอธิป กล่าวว่า ในช่วงที่เหลือของปีนี้บริษัทเตรียมเปิดตัวโครงการใหม่อีก 14 โครงการ มูลค่ารวม 1.3 หมื่นล้านบาท จากแผนเปิดโครงการ 16 โครงการ มูลค่ารวม 2 หมื่นล้านบาท โดยในช่วงไตรมาส 3/54 จะมีการเปิดตัวคอนโดมิเนียมอีก 1 โครงการที่ ถ.เพชรบุรีตัดกับอโศก
บริษัทคาดว่าราคาขายบ้านและคอนโดมิเนียมในสิ้นปีนี้มีโอกาสปรับขึ้นถึง 10% ตามต้นทุนการก่อสร้างที่เพิ่มขึ้น ซึ่งปัจจุบันสูงขึ้นแล้ว 5-6%
นายอธิป กล่าวอีกว่า ตลาดคอนโดมิเนียมในช่วงไตรมาส 2/54 น่าจะทรงตัวจากไตรมาส 1/54 โดยมองว่าความต้องการคอนโดมิเนียมยังมีอยู่มาก โดยคอนโดมีเนียมเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ของคนกรุงเทพ ส่วนมาตรการ LTV คงไม่กระทบกับคอนโดมิเนียมที่เปิดตัวใหม่ แต่จะกระทบกับคอนโดมิเนียมที่ค้างสต็อก ซึ่งตลาดรวมมีอยู่ราว 2 หมื่นกว่ายูนิต