ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 3 ปีมื่อคืนนี้ (20 เม.ย.) ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทกลุ่มเทคโนโลยี รวมถึงอินเทล คอร์ป ซึ่งช่วยหนุนดัชนี Nasdaq ทะยานขึ้นแข็งแกร่งสุดในรอบ 6 เดือน นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากรายงานยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐที่พุ่งขึ้นเกินคาด
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดพุ่งขึ้น 186.79 จุด หรือ 1.52% แตะที่ 12,453.54 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 17.74 จุด หรือ 1.35% แตะที่ 1,330.36 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดปรับตัวขึ้น 57.54 จุด หรือ 2.10% สู่ 2,802.51 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 4.3 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วนเกือบ 5 ต่อ 1
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างคึกคัก เนื่องจากนักลงทุนขานรับผลประกอบการที่สดใสของบริษัทกลุ่มเทคโนโลยี โดยหุ้นอินเทล คอร์ป ผู้ผลิตชิพรายใหญ่ของโลก ปิดพุ่ง 7.8% หลังจากอินเทลเปิดเผยว่าบริษัทมีรายได้ในไตรมาสแรกปีนี้ 1.28 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 25% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว และมีกำไรสุทธิ 3.2 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 29%
ขณะที่หุ้นยูไนเต็ด เทคโนโลยีส์ คอร์ป ปิดพุ่ง 4% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้สูงขึ้น 17% ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ในวอลล์สตรีท และยังได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการปี 2554 ด้วย
หุ้นยาฮู อิงค์ ปิดบวก 4.6% หลังจากบริษัทกำไรสุทธิลดลง 28% แตะที่ 222.99 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสแรก แต่ก็ยังสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ เพราะได้รับแรงหนุนจากยอดขายโฆษณาที่แข็งแกร่ง ขณะที่หุ้นไอบีเอ็มปิดทรงตัว หลังจากผลประกอบการของบริษัทจะออกมาสูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
ทั้งนี้ ผลประกอบการที่สดใสของบริษัทเทคโนโลยีช่วยหนุนดัชนีหุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์พุ่งขึ้น 4.3% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.ปีที่แล้ว และยังหนุนดัชนี Nasdaq พุ่งขึ้นแข็งแกร่งสุดในรอบ 6 เดือน
นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากรายงานของสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐที่ระบุว่า ยอดขายบ้านมือสองเดือนมี.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.7% แตะระดับ 5.10 ล้านยูนิตต่อปี มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 2.5% แตะระดับ 5 ล้านยูนิตต่อปี ซึ่งบ่งชี้ถึงการฟื้นตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐ
หุ้นฟรีพอร์ท-แมคมอร์แกน คอปเปอร์ แอนด์ โกลด์ ปิดบวก 3% หลังจากบริษัทรายงานผลประกอบการที่สูงเกินคาด แต่หุ้นบริษัทอัลเทรีย กรุ๊ป ซึ่งเป็นผู้ผลิตบุหรี่รายใหญ่ของสหรัฐ ปิดลบ 0.9% หลังจากยอดขายปรับตัวลดลง และหุ้นธนาคารเวลส์ ฟาร์โก แอนด์ โค ปิดร่วง 4%
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, คอนเฟอเรนซ์ บอร์ด จะเปิดเผยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือนมี.ค. และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟียจะเปิดเผยผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจเดือนเม.ย. ส่วนวันศุกร์ ไม่มีรายงานข้อมูลเศรษฐกิจเนื่องจากเป็นวันหยุด Good Friday