ตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่งขึ้นแข็งแกร่งเมื่อคืนนี้ (20 เม.ย.) เนื่องจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทเอกชน รวมถึงอินเทล คอร์ป, พีเอสเอ เปอร์โยต์ ซีตรอง และลอรีอัล เอสเอ ทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีพุ่งขึ้น 209.88 จุด หรือ 2.98% ปิดที่ 7,249.19 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 7,136.74-7,261.26 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสพุ่งขึ้น 96.04 จุด หรือ 2.46% ปิดที่ 4,004.62 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 3,947.46-4,008.74 จุด
ดัชนี FTSEurofirst 300 หุ้นกลุ่มบลูชิพในตลาดยุโรปพุ่งขึ้น 1.85% ปิดที่ 1,137.81 จุด และดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้น 1.7% ปิดที่ 279.06 จุด
ตลาดหุ้นยุโรปทะยานขึ้นถ้วนหน้าหลังจากบริษัทเอกชนรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะอินเทล คอร์ป ผู้ผลิตชิพรายใหญ่ของโลกที่มีรายได้ในไตรมาสแรกปีนี้สูงถึง 1.28 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 25% และมีกำไรสุทธิ 3.2 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 29%
รายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งของอินเทลช่วยหนุนหุ้นเอเอสเอ็มแอล ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิพรายใหญ่สุดของยุโรป พุ่งขึ้น 5.3% ขณะที่หุ้นเทเลซิตี้ กรุ๊ป ปิดบวก 1.5% หลังจากบริษัทวีเอ็มแวร์ อิงค์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตโปรแกรมสำหรับระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ รายงานผลประกอบการที่ดีเกินคาด
หุ้นพีเอสเอ เปอร์โยต์ ซีตรอง ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อันดับสองของยุโรป ปิดบวก 4.7% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้ไตรมาสแรกมูลค่า 1.54 หมื่นล้านยูโร หรือ 2.24 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
หุ้นลอริอัล ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องสำอางรายใหญ่ของโลก ปิดบวก 3.2% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายไตรมาสแรกที่สูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ โดยเฉพาะยอดขายเครื่องสำอาง Maybelline และน้ำหอม Ralph Lauren
หุ้นเอชเอสบีซี โฮลดิ้ง ปิดบวก 1.8% หลังจากนักวิเคราะห์ของมอร์แกน สแตนลีย์ ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าวขึ้นสู่ระดับ "overweight" จากเดิมที่ระดับ "equal weight"