นายอรรถพล สฤษฎิพันธาวาทย์ ประธานเจ้าหน้าที่ด้านการเงิน บมจ.เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น(SC) เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าจะเสนอขายหุ้นกู้ในช่วงครึ่งหลังปี 54 หลังจากที่ผู้ถือหุ้นอนุมัติวงเงินออกหุ้นกู้ 2,000 ล้านบาทเมื่อวานนี้ ซึ่งจะทยอยเสนอขายเป็นล็อต โดยจะมีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือก่อน เชื่อว่านักลงทุนจะให้ความสนใจ เพราะช่วงที่ผ่านมาบริษัทมีการเติบโตที่ดี
สำหรับเม็ดเงินที่ได้จะนำไปใช้เป็นเงินทุนพัฒนาโครงการในอนาคต อีกทั้งเป็นการเพิ่มทางเลือกการระดมเงินทุน นอกเหนือจากการกู้จากสถาบันการเงินที่ปัจจุบันแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับบริษัทที่มีนโยบายบริหารต้นทุนการเงินให้อยู่ในระดับต่ำ
ทั้งนี้ ในส่วนของแผนธุรกิจของบริษัทมองว่ายอดขายไตรมาส 1/54 จะเติบโต 10% จากช่วงเดียวกันปีก่อนและเชื่อว่าจะเติบโตต่อเนื่องในช่วงที่เหลือเพราะบริษัทมีการโครงการอย่างต่อเนื่อง
นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ประธานกรรมการบริหาร SC กล่าวว่า บริษัทจะพยายามรักษาอัตราเติบโตของรายได้ในแต่ละปีไม่ให้น้อยกว่าภาพรวมอุตสาหกรรม และยังคงให้ความสำคัญกับความต้องการของลูกค้า ซึ่งในปีนี้บริษัทจะเปิดโครงการใหม่ 13 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 1.5 หมื่นล้านบาท ไม่นับรวมโครงการที่เปิดไปแล้ว 12 โครงการเป็นโครงการตื่อเนื่องในปี 53 รวม 2.2 หมื่นล้านบาท ที่จะพัฒนาต่อไปด้วย
ขณะที่ปีนี้จะเห็นการพัฒนาโครงการที่หัวหิน ซึ่งถือเป็นการออกสู่ตลาดต่างจังหวัดครั้งแรกของบริษัท และจากปัจจัยดังกล่าวจะผลักดันยอดขายปีนี้เป็นไปตามเป้าหมายที่ 8,000 ล้านบาท เติบโต 50% จาก 5,020 ล้านบาท ขณะที่รายได้คาดว่าจะอยู่ที่กว่า 7,000 ล้านบาท และจะขึ้นเป็น 10,000 ล้านบาท ในปี 55
"เราจะรักษาการเติบโตในแต่ละปีไม่ให้น้อยกว่าการเติบโตของอุตสาหกรรม แม้ในปีนี้จะมีปัจจัยกดดันทั้งจากต้นทุนวัสดุก่อสร้างและดอกเบี้ยขาขึ้น แต่ก็ยังมองว่ากำลังซื้อปีนี้คงไม่แตกต่างจากปีก่อน เพราะยังไงบ้านก็ยังเป็นสิ่งที่จำเป็น อยู่ที่เรามากกว่าที่จะเป็นผู้ที่ทำหน้าที่ที่จะทำอย่างไรในการให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อบ่านกับเรา แต่เชื่อว่าผลกระทบดังกล่าวจะกระทบ sentiment ในการตัดสินใจชะลอบ้างเล็กน้อย"นางสาวยิ่งลักษณ์ กล่าว
ในปีนี้สัดส่วนรายได้หลักยังมาจากการพัฒนาที่อยู่อาศัย 80% ขณะที่ธุรกิจอาคารสำนักงานให้เช่าสัดส่วน 20% ซึ่งถือว่าไม่มากนัก เพราะความต้องการยังมีน้อยอยู่ และอาคารชินวัตร 3 จะมีผู้เช่าสถานีโทรทัศน์ ThaiPBS ย้ายออกในช่วงกลางปีนี้ โดยมีสัดส่วนการเช่า 10-20% ของพื้นที่ทั้งหมด 5 หมื่นตร.ม. แต่เชื่อว่าเร็วๆนี้จะมีผู้มาเช่าทดแทน เพราะขณะนี้มีผู้สนใจหลายรายเข้ามาสอบถาม โดยเฉพาะธุรกิจสื่อ
แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทก็ยังมองหาทำเลที่เหมาะสมในการพัฒนาอาคารสำนักงานให้เช่าเพิ่มเติมควบคู่ไปด้วย เพราะมองว่าหากความต้องการกลับมาก็จะสามารถดำเนินการได้ทันที