นายสมบัติ กิจจาลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.รถไฟฟ้ากรุงเทพ (BMCL) คาดว่า ปริมาณผู้โดยสารรถไฟฟ้าใต้ดินในปีนี้จะเติบโต 4-5% จากปีก่อนที่มีปริมาณผู้โดยสารในวันธรรมดาประมาณ 2 แสนเที่ยว/วัน และขณะที่รายได้ก็จะเพิ่มขึ้นประมาณ 8-10% เนื่องจากผู้โดยสารมีการเดินทางในระยะทางยาวขึ้น เนื่องจากมีความสะดวกสบายมากขึ้น
ปัจจุบัน ปริมาณผู้โดยสารวันธรรมดาอยู่ที่ 2.1-2.2 แสนเที่ยว/วัน วันเสาร์ 1.5 แสนเที่ยว/วัน วันอาทิตย์ 1.1 แสนเที่ยว/วัน
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าในปีนี้บริษัทยังมีผลประกอบการขาดทุน แต่เป็นขาดทุนจากดอกเบี้ยเงินกู้เป็นหลักประมาณ 1,000 ล้านบาท ซึ่งการที่จะลดภาระขาดทุนได้นั้นบริษัทก็คาดหวังว่าหากได้รับให้เป็นผู้เดินรถโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ก็จะช่วยให้ผลประกอบการดีขึ้นมาได้มาก
"หากบริษัทได้รับงานจากโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงที่จะรู้ผลภายใน 2-3 เดือนนี้ ก็จะส่งผลให้ปริมาณผู้โดยสารเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด และทำให้ Break Even ได้ทันที โดยประเมินว่าปริมาณผู้โดยสารจะอยู่ที่ 3.5 แสนเที่ยว/วัน"นายสมบัติ กล่าว
ขณะที่การเดินรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินอยู่ระหว่างรอการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดประมูล โดยคาดว่าจะเปิดประมูลภายในปลายปีนี้ ซึ่งมองว่า BMCL มีความสามารถและมีประสบการณ์ในการเดินรถมานานน่าจะมีความได้เปรียบในจุดนี้ นอกจากนี้หากมีส่วนต่อขยายในเส้นสีน้ำเงิน แม้ BTS จะเป็นผู้ได้รับสัมปทาน แต่บริษัทก็จะได้รับอานิสงส์ไปด้วย
"ถ้าส่วนต่อขยายเกิดขึ้นไม่ว่าใครจะได้รับสัมปทานเราก็จะเป็นผู้ได้ประโยชน์อยู่ดั บริษัทก็จะกระเตื้องขึ้นทันที ขณะที่ค่าใช้จ่ายก็จะน้อยลง ต้นทุนที่เคยเป็นภาระก็จะทยอยลดลง จึงมองว่าส่วนต่อขยายที่จะเกิดขึ้นจะเป็นสาระสำคัญในการ Break Even ของเราโดยเฉพาะสายสีม่วงเราเชื่อว่าจะเป็นผู้ได้รับสัมปทาน"นายสมบัติ กล่าว