นายไกรฤทธิ์ นิลคูหา อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) ในฐานะประธานกรรมการสรรหากรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท(PTT) เปิดเผยว่า หลังจากสิ้นสุดกำหนดยื่นใบสมัครเข้ารับการเลือกตั้งเป็นในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท. แทนนายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ซึ่งจะครบวาระในเดือนก.ย.นี้ ปรากฏว่ามีผู้ยื่นใบสมัครทั้งหมด 4 ราย
ได้แก่ นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน PTT, คือ นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ไออาร์พีซี (IRPC) และ นายสุรงค์ บูลกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไทยออยล์(TOP)
ส่วนคนนอกอีก 1 คนนั้น นายไกรฤทธิ์ กล่าวว่า ไม่ประสงค์ออกนามในขณะนี้ แต่ก็ระบุว่านายกรพจน์ อัศวินวิจิตร อดีต รมช.พาณิชย์ และ อดีตผู้อำนวยการ ธนาคารออมสิน และนายภูษณ ปรีย์มาโนช อดีตผู้บริหารบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น ไม่ได้ยื่นใบสมัครในครั้งนี้
ขณะที่แหล่งข่าวจาก ปตท. เปิดเผยว่า คนนอกที่ยื่นใบสมัครอีก 1 รายนั้น เป็นอดีตผู้บริหารของ บมจ.อุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย(TPI) และบมจ.ไออาร์พีซี(IRPC)แต่ปัจจุบันลาออกไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม นายไกรฤทธิ์ กล่าวว่า การสรรหาจะเป็นไปด้วยความโปร่งใสและถูกต้องตามกระบวนการ ซึ่งตนเองก็เคยเป็นคณะกรรมการสรรหา CEO คนปัจจุบันมาก่อน ดังนั้น จึงไม่ต้องกังวลกระบวนการสรรหาที่จะมีขึ้น โดยหลังจากวันนี้ที่ทราบรายชื่อผู้สมัครในวันนี้แล้วจะมีการตรวจสอบคุณสมบัติ และจะให้ผู้สมัครแต่ละรายแสดงวิสัยทัศน์
นายเทวินทร์ กล่าวว่า การลงสมัครครั้งนี้เนื่องจากตนเองทำงานในเครือปตท.มาเป็นเวลา 22 ปี โดยทำงานกับ ปตท.สผ.15 ปี และทำงานกับ ปตท.7 ปี โดยส่วนตัวก็มีความถนัดในการทำงานด้านขุดเจาะสำรวจมาก เพราะทำงานมาเป็นเวลานาน และมีความเชี่ยวชาญในงานด้านต่างประเทศ และช่วงที่กลับมาทำงานด้านปตท.ก็รับผิดชอบงานฝ่ายบริหารที่คลุกคลีโดยตรงกับ CEO คนปัจจุบัน
แต่ยอมรับว่าแม้ว่าจะเป็น CFO ของปตท.โดยตรง แต่ไม่ได้รับการสนับสนุนใด ๆ เป็นพิเศษ โดยผู้ที่ลงสมัครอีก 2 คน ซึ่งเป็นคนในเครือ ปตท.ก็ต่างเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารรถ และเป็นระดับ CEO ขององค์กร
สำหรับวิสัยทัศน์ก็จะมุ่งเน้นไปที่การลงทุนต่างประเทศ เชื่อว่าภายใน 4-5 ปีภายใต้แผนลงทุน 5 ปีก็จะทำให้ ปตท.มีการเติบโตของรายได้ 40-50% แต่ก็ต้องชึ้นอยู่กับราคาน้ำมันและผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีในตลาดโลกว่าจะเป็นอย่างไรด้วย