ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (21 เม.ย.) ทำสถิติปิดบวกติดต่อกันสามวันทำการ เนื่องจากตลาดยังคงได้ปัจจัยบวกจากรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทเอกชน รวมถึงแอปเปิล อิงค์ และเจนเนอร์รัล อิเล็กทริก (จีอี) อย่างไรก็ตาม ตลาดปรับตัวขึ้นในกรอบที่จำกัด หลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่ลดลงน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 52.45 จุด หรือ 0.42% แตะที่ 12,505.99 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดขยับขึ้น 7.02 จุด หรือ 0.53% แตะที่ 1,337.38 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดบวก 17.65 จุด หรือ 0.63% แตะที่ 2,820.16 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 3.7 พันล้านหุ้น มีจำนวหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 2 ต่อ 1
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวขึ้นติดต่อกันสามวันทำการ เนื่องจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทเอกชนทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจมากขึ้น โดยแอปเปิล อิงค์ เปิดเผยว่า บริษัทมีรายได้ในไตรมาสแรกปีนี้พุ่งขึ้น 83% แตะที่ 2.467 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 95% แตะที่ 5.99 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เช่นกัน
ปัจจัยหลักที่ทำให้ผลประกอบการของแอปเปิลพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งมาจากการที่บริษัทสามารถจำหน่ายไอโฟนได้เกือบ 18.65 ล้านเครื่องในไตรมาสแรกปีนี้ ทะยานขึ้น 113% จากไตรมาสแรกปีที่แล้ว ซึ่งรายได้จากยอดขายไอโฟนมีสัดส่วนเกือบครึ่งหนึ่งของยอดขายโดยรวมของแอปเปิล
ขณะที่จีอีเปิดเผยรายได้ไตรมาสแรกเพิ่มขึ้น 6% แตะที่ 3.845 หมื่นล้านดอลลาร์ และแมคโดนัลด์เปิดเผยรายได้ไตรมาสแรกเพิ่มขึ้น 9% แตะที่ 6.1 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งรายได้ของทั้งสองบริษัทสูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ในวอลล์สตรีท
ทั้งนี้ หุ้นแอปเปิลปิดพุ่งขึ้นเกือบ 3% หุ้นทราเวลเลอร์ส คอมพานีส์ อิงค์ ปิดบวก 4% ส่วนหุ้นยูไนเต็ดเฮลธ์ปิดพุ่ง 8% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรไตรมาสแรกทะยานขึ้น 13%
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวขึ้นในกรอบที่จำกัดหลังจาก กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 16 เม.ย.ปรับตัวลง 13,000 ราย แตะระดับ 403,000 ราย น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 392,000 ราย
ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟียรายงานว่า ดัชนีกิจกรรมทางเศรษฐกิจร่วงลงมาอยู่ที่ระดับ 18.5 จุดในเดือนเม.ย. จากเดือนมี.ค.ที่ระดับ 43.4 จุด ซึ่งทำให้เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการฟื้นตัวในภาคธุรกิจของสหรัฐ
*ตลาดหุ้นนิวยอร์กจะปิดทำการในวันศุกร์ที่ 22 เม.ย.นี้ เนื่องในวันศุกร์ประเสริฐ (Good Friday)