โบรกฯ เชียร์"ซื้อ" CPF ปรับขึ้นกำไรสุทธิปี 54 จากราคาเนื้อสัตว์ทำนิวไฮ

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday April 22, 2011 11:33 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเกอร์ต่างเห็นพ้อง"ซื้อ"หุ้นบมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร(CPF)จากการปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 54 และมูลค่าพื้นฐานตามกำไรที่สูงขึ้น ปัจจัยหลักมาจากราคาเนื้อสัตว์ทั้งไก่ หมู และกุ้ง ปรับตัวขึ้นสูง โดยเฉพาะในเดือนเม.ย.ราคาได้ทำสถิติสูงสุด และคาดว่าราคาเฉลี่ยในปีนี้จะสูงขึ้นกว่าปีก่อน เป็นผลจากซัพพลายหายไปมาก แต่ความต้องการยังสูง

ทั้งนี้ ประมาณการกำไรสุทธิปี 54 ที่ปรับใหม่เพิ่มเป็น 1.70-1.45 หมื่นล้านบาท เทียบกับปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1.35 หมื่นล้านบาท จากเดิมบางโบรกเกอร์คาดว่าจะไม่ค่อยมีอัตราเติบโตในปีนี้

แต่ขณะนี้คาดการณ์ว่ากำไรสุทธิในไตรมาส 1/54 จะเติบโดอย่างมีนัยสำคัญ รับผลบวกจากช่วงปีใหม่และตรุษจีน นอกจากนี้ คาดว่า CPF จะได้รับประโยชน์จากการลงทุนในต่างประเทศ ประเมินว่าใน 3-4 ปีนี้จะมีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศเพิ่มเป็น 30% จากปี 53 อยู่ที่ 26%

          โบรกเกอร์            คำแนะนำ            ราคาเป้าหมาย(บาท)
          บล.เอเซียพลัส           ซื้อ                35.35
          บล.บัวหลวง             ซื้อ                34.50
          บล.ธนชาต              ซื้อ                33.00
          บล.กิมเอ็ง              ซื้อ                32.00
          บล.กรุงศรีอยุธยา       เก็งกำไร       อยู่ระหว่างปรับคาดที่ 27.50-32.00

นายสิทธิเดช ประเสริฐรุ่งเรือง ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.กรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า กำลังอยู่ระหว่างปรับประมาณกำไรสุทธิในปี 54 ของ CPF จากเดิมประมาณการไว้ที่ 13,500 ล้านบาท เป็น 14,500 บาท หลังจากราคาเนื้อสัตว์ในเดือนม.ย.54 ปรับตัวสูงขึ้นทำสถิติสูงสุด รวมทั้งจะปรับเป้าหมายปี 54 คาดไว้ที่ 27.50-32.00 บาท จากเดิมให้ไว้ 25.50 บาท

ในช่วง 3 สัปดาห์แรกของเดือนเม.ย.ราคาเนื้อไก่ได้ปรับขึ้น 19% จากช่วงดียวกันของปีก่อน มาอยู่ที่ 51 บาท/กก. และราคาเนื้อหมูก็ปรับขึ้น 9% จากปีก่อนช่วงเดียวกัน มาอยู่ที 67 บาท/กก.

ทั้งนี้ คาดว่าราคาเนื้อสัตว์จะทรงตัวในระดับสูงไปจนถึงสิ้นปี โดยเนื้อไก่และหมู คิดเป็นรายได้ของ CPF สัดส่วน 30% จึงจะปรับประมาณการรายได้ในปี 54 ด้วยจากที่ผู้บริหารให้ข่าวว่ารายได้จะเติบโต 15% จากเดิม 10%

"ถ้าราคาเนื้อสัตว์เฉลี่ยสูงไปถึงสิ้นปี จะทำให้กำไรปรับขึ้นอีก 8% และทำให้มูลค่าพื้นฐานเพิ่มด้วยที่ 27.50 บาท คิดบน P/E 12 เท่า แต่ถ้าคิดบน P/E 15 เท่าซึ่งเป็นP/E อุตสาหกรรมอาหารในภูมิภาคนี้จะเท่ากับ 32.00 บาท แต่คิดว่าให้เล่นเก็งกำไร หรือเล่นสั้น ก็เทรดดิ้งระหว่าง 27.50-32.00 บาท"นายสิทธิเดช กล่าว

ด้านนักวิเคราะห์จาก บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย)กล่าวว่า มีแนวโน้มปรับขึ้นประมาณการกำไรสุทธิ ปี 54 ของ CPF จากที่ประมาณการไว้ 14,700 บาท รวมทั้งปรับเพิ่มราคาเป้าหมายจากปัจจุบันให้ไว้ 28.75 บาท เนื่องจากราคาเนื้อไก่และเนื้อหมูปรับตัวขึ้นอย่างมากในเดือนเม.ย.ตามความต้องการเนื้อสัตว์สูงต่อเนื่องมาตั้งแต่เทศกาลตรุษจีน ขณะที่ซัพพลายในตลาดลดลง ทำให้มาร์จิ้นของบริษัทดีขึ้น และคาดว่าในไตรมาส 2/54 ก็ยังจะดีขึ้นต่อเนื่อง

ขณะที่บทวิเคราะห์ บล.เอเซียพลัส ระบุ มีมุมมองบวกมากต่อแนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 54 ของ CPF โดยคาดว่าแนวโน้มกำไรสุทธิจะเดินหน้าทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้ง ซึ่งได้รับปัจจัยบวกจากทั้งธุรกิจในประเทศและต่างประเทศ โดยธุรกิจในประเทศจะได้รับอานิสงส์จากราคาผลิตภัณฑ์ทั้งสัตว์บกและสัตว์น้ำโดดเด่นต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 53 โดยราคาเฉลี่ยไก่เป็นในปี 54 อยู่ที่ระดับ 47.40 บาท/กก.ราคาเฉลี่ยกุ้งขาวแวนาไมท์เท่ากับ 140 บาท/กก.สูงกว่าสมมติฐานของฝ่ายวิจัยถึง 18.5% และ 16.7% ตามลำดับ

โดยในเบื้องต้นคาดว่าประมาณการกำไรสุทธิและ Fair value ใหม่ปี 2554 จะเพิ่มขึ้นเป็น 1.7 หมื่นล้านบาท และ 38 บาท(อิง PER 15 เท่า) ตามลำดับ

ในขณะที่ธุรกิจในต่างประเทศคาดว่าจะได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่ จากภาวะที่ความต้องการบริโภคสินค้าอาหารทั่วโลกเพิ้มสูงขึ้น เนื่องจาก CPF มี บ.ย่อยในต่างประเทศที่ดำเนินธุรกิจอาหาร คิดเป็นสัดส่วน 26% ของรายได้รวมในปี 53 ได้แก่ ไต้หวัน (ธุรกิจไก่) รัสเซีย (ธุรกิจสุกร) ตุรกี (ธุรกิจไก่) อินเดีย มาเลเซียและฟิลิปปินส์ (ธุรกิจสัตว์น้ำ) ซึ่งล้วนแสดงผลการดำเนินงานที่เป็นกำไรแล้วในปัจจุบัน โดยฝ่ายวิจัยคาดว่ารายได้จากธุรกิจในต่างประเทศในระยะ 3-4 ปีข้างหน้าจะเติบโตในระดับเฉลี่ย 30%

"ฝ่ายวิจัยยังคงคำแนะนำซื้อ จากคาดการณ์ EPS ปี 54-55 ที่เติบโตเฉลี่ย 15.7% yoy และ 9.3% yoy ตามลำดับ โดยกำหนด Fair value ปี 54 เท่ากับ 35.35 บาท อิง PER 15 เท่า ซึ่งใกล้เคียง PER เฉลี่ยของกลุ่มอาหารในไทยที่เท่ากับ 16 เท่า"บทวิเคราะห์ระบุ

ส่วนกำไรสุทธิในไตรมาส 1/54 ของ CPF คาดที่ 3.42 พันล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยฯถึง 67% qoq เนื่องจากได้รับผลบวกจากเทศกาลปีใหม่และตรุษจีนในเดือนก.พ.54 ส่งผลให้ความต้องการบริโภคเนื้อสัตว์ในประเทศปรับตัวสูงขึ้น แม้ว่าตลาดต่างประเทศยังเป็นช่วง Low season ของการส่งออกก็ตาม


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ