นายแอริค มาร์ค เลอวีน ประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.แคลิฟอร์เนีย ว้าว เอ็กซ์พีเรียนซ์ (CAWOW) เปิดเผยว่า แผนฟื้นฟูกิจการของบริษัทคาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 2-3 เดือนจากนี้ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการคัดเลือกบริษัทที่ปรึกษาทางการเงิน ซึ่งต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จก่อนหุ้นบริษัทถูกพักการซื้อขายหลังวันที่ 6 พ.ค.54
"ตอนนี้เราอยู่ระหว่างการหาที่ปรึกษาทางการเงินภายนอกมาทำแผนฟื้นฟูกิจการ ซึ่งมีหลายรายยื่นข้อเสนอเข้ามา แต่เราก็ต้องเลือกที่ดีที่สุด ซึ่งแผนฟื้นฟูมีความเป็นไปได้ที่จะมีผู้ร่วมทุนใหม่เข้ามาลงทุนในบริษัทเพื่อ support การดำเนินธุรกิจ" นายแอริค กล่าว
สำหรับการผิดนัดชำระหนี้ตามสัญญาการกู้เงินกับ ธนาคารทหารไทย (TMB) และธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) คาดว่าจะมีข้อยุติภายในปี 54 ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทมีการยื่นข้อเสนอ 2 แนวทาง ได้แก่ การขยายเวลาชำระหนี้ และเปิดโอกาสให้เข้ามาลงทุนในบริษัท โดยมีการใช้สาขาเชียงใหม่และเอสพลานาด เป็นหลักประกันหนี้ของ TMB และสาขาพารากอน เป็นหลักประกันหนี้ของ BAY
"คดีเริ่มมาตั้งแต่ ต.ค.ปีก่อน สถานะตอนนี้อยู่ระหว่างการเจรจา ตอนนี้เรากำลังหาที่ปรึกษากฎหมายภายนอกเข้ามาต่อสู้ แต่ภาพรวมตอนนี้ถือว่าค่อนข้างดี แบงก์เปิดโอกาสให้เราเจรจามากขึ้นและมีการยื่นข้อเสนอต่างๆให้แบงก์พิจารณา คิดว่าน่าจะมีการตัดสินใจของบอร์ดแบงก์เร็วๆนี้" นายแอริค กล่าว
อนึ่ง บริษัทวงเงินกู้ยืมจาก TMB จำนวน 195 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย MLR ลบ 1% ต่อปี ผิดนัดชำระหนี้เงินต้น 54.16 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยผิดนัดชำระหนี้ 15.50% ต่อปี ส่วน BAY เป็นหนี้เงินเบิกเกินบัญชี วงเงินเบิกเกินบัญชี 10 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย MOR 7.5% ต่อปี เป็นหนี้เงินกู้ยืม วงเงินกู้ยืม 115 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย MLR
สำหรับกระแสเงินสดของบริษัทในปีนี้คาดว่าจะพลิกกลับมาเป็นบวก หลังจากบริษัทมีการลดค่าใช้จ่ายต่างๆ โดยการลดขนาดพื้นที่บางสาขา และปิดสาขาที่ไม่มีกำไร ปัจจุบันบริษัทยังมีรายจ่ายเดือนละ 80 ล้านบาท ขณะที่มีรายได้ 78-86 ล้านบาท/เดือน นอกจากนี้ยังมีจำนวนสมาชิกใหม่เพิ่มขึ้น 1,500 คน/เดือน ซึ่งจะช่วยเพิ่มรายได้ของบริษัท
ด้านนายณัฐพล จุฬางกูร ในฐานะผู้ถือหุ้นรายหนึ่งที่ล่าสุดเข้าเก็บหุ้น CAWOW ไปแล้ว 6.98% กล่าวว่า การเข้าซื้อหุ้น CAWOW เนื่องจากมองว่าราคาหุ้นคงไม่ต่ำลงกว่านี้อีก และเป็นการเข้ามาลงทุนระยะยาว ไม่มีแผนจะเข้ามาเป็นผู้บริหารงาน อย่างไรก็ตามจะเข้าซื้อหุ้นเพิ่มอีกหรือไม่ขึ้นอยู่กับแผนฟื้นฟูกิจการของบริษัท
ขณะที่มองการเจรจาเรื่องผิดนัดชำระหนี้กับธนาคารพาณิชย์ น่าจะมีข้อยุติได้เร็วๆนี้ ประกอบกับบริษัทมี brand loyalty ที่ลูกค้าเข้ามาใช้บริการ
"หลังจากพูดคุยกับผู้บริหารค่อนข้างมั่นใจในนโยบายดำเนินงาน แต่ให้คำเสนอแนะว่าควรยกเลิกการให้บริการสมาชิกแบบตลอดชีพ เนื่องจากไม่มีรายได้เข้ามา รวมทั้งน่าจะมีการลงทุนในจอย สปา เพิ่มขึ้น จากเดิมมีแค่สีลมที่บริษัทลงทุนเอง เพราะหากคิดเป็นพื้นที่ต่อตารางเมตร ธุรกิจสปามีรายได้มากกว่าฟิตเนส...ส่วนผู้ร่วมทุนใหม่มีความเป็นไปได้ ที่คุยกับผู้บริหารน่าจะเป็นชาวต่างประเทศ แต่ไม่รู้ในนามบุคคล หรือบริษัท"นายณัฐพล กล่าว