SIRI เล็งปรับยอดขาย Q2/54 คาดทะลุเป้า 4 พันลบ.หลัง Q1/54 ดีเกินคาด

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday April 25, 2011 17:28 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวันจักร์ บุรณศิริ ประธานผู้บริหารฝ่ายปฏิบัติการ บมจ.แสนสิริ (SIRI) เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมปรับเป้าหมายยอดขายในไตรมาส 2/54 เพิ่มขึ้นจากเดิมที่วางไว้ที่ 4 พันล้านบาท หลังจากยอดขายไตรมาส 1/54 สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ ประกอบกับยังมีลูกค้าเข้ามาชมโครงการอย่างต่อเนื่อง

ส่วนทั้งปี 54 เชื่อว่ายอดขายจะเป็นไปตามที่ตั้งเป้าเติบโต 10% จากปีก่อน และมีอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มเป็น 34% จากปีก่อนอยู่ที่ 33% และอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 10-11% จากปีก่อนอยู่ที่ 10.2%

ขณะที่การรับรู้รายได้ในปีนี้มีแนวโน้มสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 1.9 หมื่นล้านบาท แต่ขึ้นอยู่กับดีมาน์ในช่วงครึ่งปีหลังด้วย ซึ่งปัจจุบัน บริษัทมียอดขายรอโอน(backlog)มูลค่า 2.9 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นการรับรู้รายได้ในปีนี้ 1.3 หมื่นล้านบาท ที่เหลือจะทยอยรับรู้รายได้ในปี 55

ทั้งนี้ บริษัทยังคงเดินหน้าเปิดโครงการใหม่ 6 โครงการในไตรมาส 2/54 มูลค่ารวม 5 พันล้านบาท และทั้งปี 54 จะเปิดโครงการรวม 23 โครงการ มูลค่ารวม 3 หมื่นล้านบาท และมีงบจัดซื้อที่ดินในปีนี้ จำนวน 5 พันล้านบาท

นอกจากนี้ บริษัทมีแผนทยอยปรับราคาขายบ้านในช่วงครึ่งปีหลัง จากช่วงที่ผ่านมาที่ได้มีการทยอยปรับราคาขายไปแล้ว 2-3% ตามต้นทุนที่สูงขึ้น โดยเฉพาะราคาวัสดุก่อสร้าง และต้นทุนการเงินจากดอกเบี้ยในช่วงขาขึ้น ซึ่งคาดว่าทั้งปีจะมีการปรับขึ้นราคาขายเฉลี่ย 5% และการทยอยปรับราคาขายจะช่วยชดเชยต้นทุนที่ปรับสูงขึ้นได้

และบริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาและมองการลงทุนในสหรัฐอเมริกา ที่นิวยอร์กและบอสตัน หลังโครงการที่อังกฤษ มูลค่าโครงการ 600 ล้านบาท มีการตอบรับที่ดี ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตกแต่งภายใน คาดว่าจะเปิดขายโครงการได้ภายในอีก 1-2 เดือนจากนี้

นายวันจักร์ กล่าวอีกว่า บริษัทมีแผนออกหุ้นกู้ในช่วงครึ่งปีหลัง วงเงิน 3 พันล้านบาท ที่ได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น เพื่อนำไปเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการขยายกิจการและควบคุมต้นทุนทางการเงิน

"การออกหุ้นกู้ของเราหลังจากผู้ถือหุ้นอนุมัติ คงต้องดูสภาพตลาดว่าช่วงไหนเหมาะสมและความต้องการมีมากน้อยแค่ไหน ถ้าตลาดเปิดไตรมาส 2 นี้ก็อาจจะเห็น แต่ครึ่งปีหลังคงได้ออกแน่นอน" นายวันจักร์ กล่าว

นอกจากนั้น บริษัทยังพร้อมนำเสนอข้อมูลต่อนักลงทุนต่างประเทศ โดยมีแผนร่วมโรดโชว์ในฮ่องกง และสิงคโปร์ ในเดือน ก.ค.54 ซึ่งมองว่าในภูมิภาคเอเซีย ยังมีเม็ดเงินลงทุนจำนวนมากกว่าในยุโรป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ