ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดลบ 26.11 จุดเหตุวิตกผลประกอบการเอกชน

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday April 26, 2011 06:33 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (25 เม.ย.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการของบริษัทสหรัฐ หลังจากบริษัทคิมเบอร์ลี-คล้ากเปิดเผยผลประกอบการที่ต่ำเกินคาดและยังได้ปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการตลอดปี 2554 ซึ่งเป็นผลมาจากต้นทุนที่สูงขึ้น ขณะที่นักลงทุนจับตาดูผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันพุธนี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดลบ 26.11 จุด หรือ 0.21% แตะที่ 12,479.88 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดลบ 2.13 จุด หรือ 0.16% แตะที่ 1,335.25 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดขยับขึ้น 5.72 จุด หรือ 0.20% แตะที่ 2,825.88 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 2.9 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 1 ต่อ 4

ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลที่ว่า การพุ่งขึ้นของราคาสินค้าโภคภัณฑ์จะทำให้ต้นทุนของบริษัทเอกชนสูงขึ้นและส่งผลกระทบต่อผลประกอบการ โดยเมื่อวานนี้ บริษัทคิมเบอร์ลี-คล้าก ซึ่งเป็นผู้ผลิตสินค้าเพื่อผู้บริโภค เช่น Kleenex และ Huggies รายงานผลประกอบการที่ต่ำเกินคาด พร้อมกับปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการตลอดปี 2554 เนื่องจากต้นทุนเยื่อกระดาษและวัสดุประเภทอื่นๆปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งข่าวดังกล่าวส่งผลให้ราคาหุ้นคิมเบอร์ลี-คล้ากปิดร่วง 2.7%

หุ้นจอห์นสัน คอนทรอลส์ ซึ่งเป็นบริษัทจัดหาชิ้นส่วนรถยนต์ปิดร่วง 2.8% หลังจากบริษัทคาดการณ์ว่ารายได้ในไตรมาส 3 จะร่วงลงถึง 500 ล้านดอลลาร์เนื่องจากผลกระทบของแผ่นดินไหวในญี่ปุ่น

นักลงทุนกังวลว่าต้นทุนราคาสินค้าโภคภัณฑ์ รวมถึงน้ำมันที่สูงขึ้นอาจจะส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของบริษัทอีกหลายแห่งที่จะรายงานผลประกอบการในสัปดาห์นี้ รวมถึงบริษัทฟอร์ด มอเตอร์, โคคา-โคลา, 3M และเอ็กซอน โมลิล ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังจับตาดูผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันพุธนี้ด้วย

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า กระทรวงพาณิชย์เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านใหม่เดือนมี.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 11.1% สู่ระดับ 300,000 ยูนิตต่อปี มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ 280,000 ยูนิตต่อปี หลังจากที่ยอดขายบ้านใหม่ปรับตัวลดลงติดต่อกันในช่วง 3 เดือนก่อนหน้านั้น แต่ตัวเลขดังกล่าวยังต่ำกว่าระดับ 700,000 ยูนิตต่อปี ซึ่งเป็นตัวเลขที่สะท้อนถึงภาวะแข็งแกร่งของตลาดอสังหาริมทรัพย์

นักลงทุนจับตาดูการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันอังคาร สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์จะเปิดเผยราคาบ้านเดือนก.พ.และคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด จะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเดือนเม.ย. วันพุธ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนมี.ค. และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะประกาศมติการประชุมนโยบายการเงิน

วันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาสแรกปีนี้ และสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐจะเปิดเผยยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนมี.ค.

ส่วนวันศุกร์ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยรายได้ส่วนบุคคลเดือนมี.ค. และกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีต้นทุนการจ้างงานไตรมาสแรกปีนี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ