บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย)ระบุในบทวิเคราะห์แนะ"สะสม"หุ้น บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร(CPF)ราคาเหมาะสม 32.00 บาท และมีโอกาสปรับประมาณการและราคาเหมาะสมขึ้นได้อีก เนื่องจากได้ประเมินกำไรสุทธิใน 1Q54 ไว้ที่ 3,320 ล้านบาท เติบโต 14% yoy
เนื่องจากราคาเนื้อสัตว์ในประเทศปรับตัวสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่เดือน ก.พ. เป็นต้นมาโดยมีสาเหตุจาก Supply ในตลาดที่ลดลงกว่า 20% จากภาวะอากาศแปรปรวนซึ่งส่งผลกระทบต่อการเลี้ยงสัตว์ของผู้ประกอบการรายอื่น ขณะที่ต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ปรับตัวเพิ่มขึ้นในอัตราที่น้อยกว่าราคาขาย เนื่องจาก CPF มีการสต็อคและทำสัญญาซื้อล่วงหน้าวัตถุดิบไว้ที่ราคาต่ำกว่าตลาด นอกจากนั้นธุรกิจในต่างประเทศโดยเฉพาะที่อินเดียและมาเลเซียคาดว่าจะมีการเติบโตอย่างโดดเด่น
อย่างไรก็ดี คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นของ CPF จะลดลงจาก 18.3% ใน 1Q53 มาเป็น 17.8% จากการที่ผลประกอบการของธุรกิจไก่ที่ประเทศตุรกีใน 1Q53 ดีกว่าปกติเนื่องจาก Supply ขาดแคลนแต่ในปีนี้เข้าสู่ภาวะปกติ
พร้อมคาดกำไร 2Q54—3Q54 จะดียิ่งขึ้นไปอีกเนื่องจากเป็นฤดูกาลของการส่งออกซึ่งคาดว่าจะเติบโตทั้งจากปริมาณและราคา (ทั้งไก่และกุ้ง) ส่วนราคาเนื้อสัตว์ในประเทศก็ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องจากการที่ Supply ตึงตัว โดยราคาเนื้อไก่เพิ่มขึ้น 18% นับจากต้นปีและ 33% yoy มาที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 53 บาท/กิโลกรัม เป็นผลมาจากการที่พ่อแม่พันธุ์ไก่ของผู้ประกอบการหลายรายถูกทำลายไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมาส่งผลให้ Supply ไก่ในตลาดลดลง ขณะที่ผลผลิตของ CPF ไม่ได้รับความเสียหายเนื่องจากเลี้ยงในระบบปิด 100% อีกทั้งยังมีการเพิ่มกำลังการผลิตซึ่งคาดว่าจะทำให้ปริมาณขายเริ่มเพิ่มขึ้นตั้งแต่ 2Q54
ส่วนราคาเนื้อหมูก็ปรับตัวเพิ่มขึ้น 28% นับจากต้นปีและ 15% yoy เป็น 70 บาท/กิโลกรัม ธุรกิจกุ้งก็ยังคงได้รับประโยชน์จากการผลิตที่มีประสิทธิภาพสูง การเพิ่มกำลังการผลิต และ ราคาขายที่ปรับตัวสูงขึ้นหลังจาก Supply ในตลาดลดลง นอกจากนั้นธุรกิจไก่ที่ประเทศตุรกีจะฟื้นตัวจากขาดทุนในไตรมาสแรกอีกด้วย
บล.ทรีนีตี้ ระบุในบทวิเคราะห์ฯว่า CPF คาดการณ์ผลประกอบการไตรมาส 1/54 ราว 3,560 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 70% QoQ และ 9% YoY ถือหุ้น CPALL ราว 29% ซึ่งคาดกำไรสุทธิไตรมาส 1/54 ของ CPALL ราว 1,800-1,950 ล้านบาท กำไรปันส่วนจาก CPALL อยู่ราว 560 ล้านบาท
การที่กำไรสุทธิสดใสขึ้นมาจากระดับมาตรฐานของไตรมาส 1 ที่ราว 2,500-3,000 ล้านบาทได้นั้น ปลายไตรมาส 1/54 นี้ ราคาหมูและราคาไก่ปรับตัวขึ้นอย่างมาก เฉพาะในไตรมาส 1/54 ราคาเนื้อหมู-ไก่ในประเทศปรับตัวขึ้นมาราว 14% จากไตรมาสก่อน โดยราคา ณ ปัจจุบันยืนที่ระดับสูงกว่าไตรมาส 4/53 ถึงราว 30% แต่ราคาวัตถุดิบเช่นข้าวโพด กากถั่วเหลือง ปลาป่น ปรับขึ้นโดยรวมเพียง 10% แถม CPF ล็อคราคาเป็นราคาเดิมของปีก่อนได้ถึง ต.ค.54 คาดว่ากำไรขั้นต้นสูงโดดเด่น ราคาไก่ในประเทศอยู่ที่ 53-55 บาทต่อ กก.แต่ต้นทุนอยู่ราว 38 บาทต่อ กก.เนื้อหมูราคาขาย 70 บาท ต้นทุน 60 บาท ต่อ กก.ดีสุดเป็นประวัติการณ์ของการทำธุรกิจ CPF
แต่ผลประกอบการจะโดดเด่นมากในช่วงไตรมาส 2/54 และ 3/54 เนื่องจากเชื่อว่าราคาเนื้อสัตว์ปรับตัวขึ้นแล้วจะลดลงยาก และในไม่ช้าราคาไก่ส่งออกไปญี่ปุ่นน่าจะได้รับการปรับขึ้นตาม
ส่วนทางด้านธุรกิจกุ้งนั้น การที่ CPF ครบวงจรมากกว่าผู้ประกอบการรายใด ทำให้ขณะนี้ด้านธุรกิจส่งออกกำลังได้ผลบวกจากราคากุ้งแปรรูปส่งออกราคาปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง เกี๊ยวกุ้งซึ่งได้เข้าจำหน่ายในสหรัฐฯ โดยเฉพาะวอลมาร์ทตั้งแต่ต้นปี จะเป็นที่มีการเติบโตของยอดขายในส่วนธุรกิจอาหารเพิ่มให้กับ CPF
ทั้งนี้ คาดกำไรปี 2554 ที่ 16,000 ล้านบาท EPS 2.42 บาท ปี 2555 คาดกำไรสุทธิ 18,000 ล้านบาท EPS 2.52 บาท (เผื่อขายหุ้น Treasury คืน)กำหนดค่า PER 16 เท่า ราคาเป้าหมายใหม่ 40 บาท