นายประภาส ตันพิบูลย์ศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุน บลจ.อยุธยา กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงที่เหลือของปีนี้ยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อ โดยเฉพาะช่วง 3 เดือนก่อนและหลังการเลือกตั้ง และน่าจะขึ้นไปทะลุ 1,200 จุดในอีกไม่นาน จากนั้นภายใน 2-3 ปีน่าจะขึ้นต่อไปได้ถึง 1,700 จุด
ทั้งนี้ ช่วงก่อนและหลังการเลือกตั้งจะเป็นช่วงที่ประชาชนมีความเชื่อมั่น และคาดว่าก่อนการเลือกตั้งทางคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง ซึ่งจะส่งผลดีต่อตลาดในภาพรวม ขณะที่แนวโน้มเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาตืยังไหลเข้าตลาดหุ้นไทยอยู่ เพื่อรับประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นและค่าเงินบาทีที่แข็งค่า
"มองว่าหุ้นไทยปีนี้และปีหน้ายังดีอยู่ โดยเฉพาะช่วงก่อนและหลังเลือกตั้ง คนยัง enjoy กับข่าวต่าง ๆ มีความเชื่อมั่น ยังกล้าอยู่ ส่วนแนวนโยบายที่เริ่มหาเสียงถือว่าใกล้เคียงกัน เน้นเพิ่มรายได้ให้ประชาชนและลดภาษีต่างๆ ก็คิดว่าก่อนยุบสภาดัชนีน่าจะ rally ขึ้นเรื่อยๆ นำโดยหุ้นขนาดใหญ่ทั้งแบงก์และพลังงาน คิดว่าปีนี้น่าจะทะลุ 1,200 จุดไปได้ และใน 2-3 ปีน่าจะขึ้นไป take 1,700 จุด"
นาปยระภาส คาดว่าอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในปี 54 จะอยู่ที่ 5.2-5.3% ด้านผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนคาดว่าจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 15% โดยในช่วงไตรมาส 1/54 ที่เริ่มทยอยประกาศผลประกอบการออกมาถือว่าหลายบริษัทออกมาดีกว่าคาด
แต่ทั้งนี้ คาดว่าช่วงไตรมาส 3/54 ดัชนีมีโอกาสปรับตัวลงราว 10-15% ในกรณีที่ผ่าน peak สุดอยู่ที่ 1,200 ไปแล้ว ซึ่งมองว่าเป็นการปรับฐานระยะสั้นเพื่อปรับตัวขึ้นต่อ
ส่วนปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา มองว่าส่งผลด้านจิตวิทยา แต่ไม่น่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อตลาดในภาพรวม