นายชวลิต จินดาวนิค ประธานสายการเงินและงบประมาณ ธนาคารเกียรตินาคิน (KK) คาดว่าปี 54 ธนาคารจะมีกำไรสุทธิสูงกว่าปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 2.8 พันล้านบาท หลังจากไตรมาส 1/54 ธนาคารมีกำไรสุทธิ 605 ล้านบาท เนื่องจากสินเชื่อของธนาคารยังคงเติบโตได้ดี โดยในไตรมาส 1/54 สินเชื่อเพิ่มขึ้น 7% และทั้งปี 54 ธนาคารยังคงเป้าหมายสินเชื่อรวมเติบโต 16-19%
แต่ยอมรับว่าการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อในไตรมาส 2/54 อาจหดตัวลงจากไตรมาส 1/54 ที่สินเชื่อเช่าซื้อเติบโต 8.5% เนื่องจากคาดว่ายอดขายรถยนต์อาจลดลงจากปัญหาภัยพิบัติญี่ปุ่น ส่งผลกระทบต่อปริมาณการส่งชิ้นส่วนรถยนต์มาไทยลดลง ทำให้ไม่สามารถผลิตรถยนต์ได้ตามความต้องการ จนกระทั่งต้องลดกำลังการผลิต ซึ่งมองว่าผลกระทบจากค่ายรถยนต์มีการลดกำลังการผลิตประมาณ 6 เดือน อย่างไรก็ตาม ธนาคารยังไม่มีความจำเป็นต้องปรับกลยุทธ์การปล่อยสินเชื่อ
ขณะที่ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยหรือสเปรดในปี 54 ตั้งเป้าอยู่ที่ 4.5-5.0% ลดลงจากไตรมาส 1/54 ที่อยู่ 5.2% เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยอยู่ในช่วงขาขึ่นและทำให้อัตราดอกเบี้ยเงินฝากต้องปรับขึ้นตาม และทำให้สเปรดลดลง
อย่างไรก็ตาม ธนาคารได้วางกลยุทธ์การบริหาร โดยลดสัดส่วนเงินฝาก และเพิ่มการระดมทุนด้วยการออกตั๋วแลกเงินมากขึ้น ซึ่งในช่วงไตรมาส 1/54 มีสัดส่วนตั๋วแลกเงินเพิ่มเป็น 32% จากสิ้นปี 53 ที่มีสัดส่วน 22%
ส่วน Gross NPL ณ สิ้นปี 54 ตั้งเป้าอยู่ที่ 3.7-3.9% จากไตรมาส 1/54 อยู่ที่ 4.1% โดยแนวทางการบริหาร NPL จะไม่มีนโยบายขาย NPL แต่จะเน้นการบริหารแทน