นายสมบัติ อนันตรัมพร ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บมจ.อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น(ILINK)เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า บริษัทได้เดินทางไปเจรจากับพันธมิตรยุโรปเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ทางด้านวิศวกรรมไฟฟ้าและพลังงาน(Electrical Power)ระดับ 1 ใน 3 ของโลก ซึ่งคาดว่าจะมีการร่วมมือกันในโครงการระดับ 1 พันล้านบาท สรุปไม่เกินไตรมาส 2/54
ประเด็นที่เจรจากัน ได้แก่ ความร่วมมือที่จะถ่ายทอดเทคโนโลยีจากยุโรปมาทางประเทศไทย และในประเทศไทยมีโครงการของหน่วยงานภาครัฐมากพอสมควร ทางบริษัทก็จะเป็นตัวแทนในการที่จะทำงานในไทยร่วมกัน โดยอาจจะเข้าประมูลงานร่วมกันหรือลงทุนร่วมกันทั้งในประเทศและอาจรวมไปถึงงานในต่างประเทศแถบเอเชีย
"ผลการเจรจาออกมาเป็นบวก เขาสนใจเราระดับหนึ่ง ซึ่งบริษัทดังกล่าวจะเดินทางมาคุยกับเราในโอกาสต่อไป การคุยกันเป็นไปไดุ้ทุกกรณีถ้าผลประโยชน์ลงทุนไปได้ ส่วนหนึ่งอาจจะประมูลงานร่วมกันแบ่งงานกันหรือถ้าจำเป็นต้องลงทุนก็จะมีการลงทุนร่วมกัน...ที่มองไว้จะทำงานร่วมกันในโปรเจกต์ระดับ 1,000 ล้านบาท เงินลงทุนคาดว่ามาจากเงินสะสมของบริษัท ถ้าไม่พอก็กู้แบงก์ได้ ซึ่งมีการคุยกับแบงก์ระดับหนึ่งแล้ว ไม่ถึงขนาดต้องเพิ่มทุน"นายสมบัติ กล่าว
นอกจากนั้น บริษัทยังเตรียมโครงการที่จะเดินทางไปเจรจากับพันธมิตรในสหรัฐ โดยในช่วงปลายเดือนพ.ค.54 ก็จะเดินทางไปเจรจากันอีกรอบ
"ปีนี้ ILINK เราเปิดตัวกับพันธมิตร เปิดการเจรจากับพันธมิตรค่อนข้างหลายราย...คาดเป็นโปรเจกต์ในประเทศและมีความเป็นไปได้ที่จะข้ามไปประเทศในแถบเอเชีย พันธมิตรฝั่งอเมริกานี้ยังไม่สามารถตอบได้ว่าผลจะเป็นยังไง"นายสมบัติ กล่าว
สำหรับงานในประเทศ วันที่ 16 พ.ค.จะยื่นประมูลงานทางด้านซับมารีนของหน่วยงานราชการมูลค่า 3,000 ล้านบาท คาดรู้ผลในอีก 2-3 เดือนหลังจากนั้น คาดว่าจะได้รับงานค่อนข้างมาก เพราะการประมูลงานซับมารีนการแข่งขันไม่รุนแรงมาก และ ILINK เป็น 1 ใน 2 ราย จึงมีความเป็นไปได้สูงที่จะเป็นผู้ชนะการประกวดราคา ซึ่งหากเป็นไปได้ก็อยากได้ทั้งหมด
นอกจากนี้ ยังมีงานประมูลอีก 2,000 กว่าล้านบาท เป็นงานซับมารีนเช่นกัน ซึ่งจะยื่นประมูลภายในเดือนพ.ค.ส่วนใหญ่มูลค่างานระดับนี้จะใช้เวลาดำเนินการประมาณ 2 ปี เป็นการทยอยรับรู้รายได้ โดยล่าสุดบริษัทมีงานในมือ(backlog)อยู่ 400-500 ล้านบาท เป็นไปได้สูงที่จะรับรู้รายได้ภายในปีนี้ เพราะงาน 500 ล้านบาทเป็นงานค้างเก่า
ส่วนโครงการโซลาร์เซลล์นั้น นายสมบัติ กล่าวว่า ยังอยู่ระหว่างการศึกษา แต่คาดว่าคงยังไม่ได้เห็นในปีนี้ เนื่องจากเบื้องต้นเห็นว่าระยะคืนทุนค่อนข้างจะยาวคิดจากระดับ adder ที่รัฐบาลให้ และในขณะนี้ก็ยังมีโปรเจ็กต์อื่นที่น่าสนใจเร่งด่วนกว่าเข้ามา เช่น งานที่ร่วมประมูลและร่วมทุนกับต่างประเทศที่น่าจะมีความเป็นไปได้กว่า สำคัญกว่า และ ROA ค่อนข้างชัดเจนและคุ้มกว่า
นายสมบัติ เปิดเผยว่า รายได้ไตรมาส 1/54 ดีกว่างวดเดียวกันปีก่อน และคาดว่าทุกไตรมาสของปีนี้แนวโน้มก็น่าจะดีกว่าปีก่อนตามที่วางแผนไว้ โดยคาดรายได้รวมในปีนี้จะเติบโตมากกว่า 20% จากปีก่อนที่มีรายได้ 1,152.84 ล้านบาท และมีความเป็นไปได้ เพราะจากผลประกอบการ 3 เดือนที่ผ่านมามีทิศทางไปได้ทางที่ดีตามเป้า โดยยังไม่นับรวมโปรเจ็กต์ขนาดใหญ่ที่ยื่นประมูลไป แต่หากนำมานับรวมก็คาดว่าจะทำให้รายได้เกินกว่าที่ตั้งเป้าไว้
สำหรับภัยพิบัติที่เกิดในประเทศญี่ปุ่น ถือว่าโชคดีที่พันธมิตรในญี่ปุ่นที่บริษัทจ้างผลิตสายซับมารีนไม่ได้รับผลกระทบ และยังสามารถทำงานให้ได้ตามปกติ ส่งของได้ตามกำหนด ส่วนปัจจัยในประเทศช่วงนี้หยุดรอดูการเลือกตั้งรอบนี้ก่อน และคงจะตอบได้ชัดเจนขึ้นว่ารัฐบาลใหม่จะมีทิศทางอย่างไร