หุ้น AGE บวก 6.44% อยู่ที่ 24.80 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท เมื่อเวลา 11.48 น.โดยเปิดตลาดที่ 24.10 บาท สูงสุด 25.25 บาท ต่ำสุด 24.10 บาท มูลค่าการซื้อขาย 252 ล้านบาท
และ เมื่อเวลา 12.08 น.ราคาหุ้น AGE เพิ่มขึ้น 6.87% มาที่ 24.90 บาท
นายพนม ควรสถาพร กรรมการผู้จัดการ บมจ.เอเชีย กรีน เอนเนอจี (AGE) กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"ราคาหุ้น AGE ปรับขึ้นแรงน่าจะมาจากมีการจ่ายปันผล 8:1 หุ้น ดีกว่าปันผลเป็นเงินสด และนักลงทุนอาจจะมองว่าธุรกิจดีและปันผลดีไปตามกระแสถ่านหิน และจะ XD ในวันที่ 4 พ.ค.ราคาหุ้นทั้งแม่-ลูกวิ่งขึ้นแรง ขณะที่หุ้นลูกมีส่วนต่าง 3 บาทกว่า
ส่วนการที่ตนเองเข้าไปซื้อวอร์แรนท์เพิ่มเข้ามา และตั้งใจจะแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญทั้งหมดนั้น เนื่องจากมองว่าหากบริษัทจะมีการลงทุนขนาดใหญ่ในเหมืองถ่านหิน ก็คงต้องใช้เงินกู้จากธนาคารพาณิชย์ ซึ่งจะทำให้บริษัทไม่ต้องเพิ่มทุนหรือออกหุ้นเพิ่มทุนเพื่อขายให้นักลงทุนเฉพาะเจาะจง(PP)เพื่อไม่ให้มี Dilution จึงเลือกที่จะใช้แนวทางการแปลงสภาพวอร์แรนต์เพื่อระดมทุนเข้ามา เป็นการรักษาวินัยทางการเงินให้สัดส่วนหนี้สินต่อทุน(D/E)ไม่สูง
นายพนม กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทคาดว่าจะมีข้อสรุปเรื่องการเข้าซื้อหุ้นในเหมืองถ่านหินที่ประเทศอินโดนีเซีย เมืองกาลิมันตัน จำนวน 1 เหมือง โดยคาดว่าจะต้องใช้เงิน 1,500-2,000 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้กำลังเร่งดำเนินการอยู่ เนื่องจากยังติดข้อกฎหมายต่างๆ และอีกหลายเรื่อง
สำหรับผลประกอบการของบริษัทนั้น ช่วงไตรมาส 1/54 คาดว่าทั้งรายได้และกำไรจะออกมาดีกว่างวดเดียวกันปีก่อน และดีกว่าไตรมาส 4/53 เนื่องจากปริมาณขายเพิ่มขึ้นและราคาถ่านหินดีขึ้นด้วย แนวโน้มไตรมาสต่อ ๆ ไปก็ยังเชื่อว่าจะดีต่อเนื่อง โดยไตรมาสที่ผ่านมาบริษัทได้ส่งออกถ่านหินไปขายในจีนเพื่มขึ้นมากกว่า 30% จากที่ตั้งเป้าว่าทั้งปีจะเติบโต 30% และในวันที่ 11 พ.ค.จะมีการแถลงข่าวผลประกอบการไตรมาส 1/54
นายพนม กล่าวว่า หลังประกาศงบฯไตรมาส 1/54 ออกมาดี บริษัทอาจพิจารณาทบทวนแผนดำเนินธุรกิจใหม่ ประกอบกับ ภัยพิบัติญี่ปุ่นทำให้เกิดผลกระทบทางบวกกับกลุ่มถ่านหิน เพราะโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เกิดปัญหาขึ้น ทำให้แผนการสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในหลายประเทศอาจต้องยกเลิกไป ประโยชน์จึงมาตกอยู่ที่ถ่านหิน ขณะที่ราคาถ่านหินขณะนี้ทรงๆและปรับขึ้นเป็นบางช่วง ตอนนี้อยู่ที่ 120 ดอลลาร์ปลายๆ แนวโน้มไตรมาส 2/54 ราคาคงไม่ลงแต่น่าจะทรงตัวอยู่ในระดับนี้ แต่ก็คงไม่ได้ปรับขึ้นไปเร็ว
ทั้งนี้ ในปี 54 บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมเติบโต 50% แบ่งเป็นการเติบโตจากส่งออกไปจีน 30% หรือคิดเป็นปริมาณ 3-5 แสนตัน การขายในประเทศเติบโต 20% หรือจำนวน 1.2 ล้านตัน แต่หลังประกาศงบฯไตรมาส 1/54 ที่คาดว่าจะออกมาดี จึงอาจจะต้องมีการทบทวนกันใหม่อีกครั้ง