ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (27 เม.ย.) หลังจากเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แถลงมุมมองที่เป็นบวกต่อเศรษฐกิจสหรัฐ โดยคาดว่าเศรษฐกิจจะยังคงขยายตัวและตลาดแรงงานจะฟื้นตัวขึ้นในปีนี้ นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้แรงหนุนจากการที่คณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟด (เอฟโอเอ็มซี) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0-0.25% และยืนยันว่าจะเดินหน้าใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบสอง (QE2) ไปจนครบกำหนดในช่วงกลางปีนี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดพุ่ง 95.59 จุด หรือ 0.76% แตะที่ 12,690.96 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 8.42 จุด หรือ 0.62% แตะที่ 1,355.66 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดบวก 22.34 จุด หรือ 0.78% แตะที่ 2,869.88 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 4.2 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 3 ต่อ 2
ตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งขึ้นทันทีที่คณะกรรมการเฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0-0.25 % ในการประชุมครั้งล่าสุด พร้อมระบุว่า เฟดจะยังคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไปอีกระยะหนึ่ง และจะเดินหน้าโครงการซื้อพันธบัตรรัฐบาลวงเงิน 6 แสนล้านดอลลาร์ต่อไปจนสิ้นสุดโครงการในเดือนมิ.ย.ปี 2554 โดยมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการจ้างงาน
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังขานรับแถลงการณ์ในด้านบวกของเบอร์นันเก้ที่ระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มขยายตัว 3.1-3.3% ในปีนี้ ซึ่งแม้ว่าลดลงจากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 3.9% แต่เบอร์นันเก้ก็มีมุมมองที่เป็นบวกต่อตลาดแรงงาน โดยคาดว่าอัตราว่างงานจะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 8.4% ภายในปลายปีนี้ จากปัจจุบันที่ระดับ 8.8%
เบอร์นันเก้ยืนยันว่า มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบสอง (QE2) ที่เฟดนำมาใช้เพื่อรับมือกับวิกฤตการเงินและกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจนั้น "ประสบความสำเร็จ" เป็นอย่างดี พร้อมกับแสดงความเชื่อมั่นว่าการที่เฟดตัดสินใจจะยุติโครงการซื้อพันธบัตรวงเงิน 6 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนมิ.ย.ปีนี้นั้น จะไม่ส่งผลกระทบ "อย่างมีนัยสำคัญ" ต่อตลาดการเงินหรือเศรษฐกิจ
แถลงการณ์การของเบอร์นันเก้ช่วยหนุนดัชนี Nasdaq ทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 10 ปี ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรประเภท 10 ปีของสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ร่ะดับ 3.35% เมื่อคืนนี้ จากวันอังคารที่ระดับ 3.32%
หุ้นโบอิ้งปิดบวก 1% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด ขณะที่หุ้นบรอดคอม คอร์ป ปิดร่วง 12% เนื่องจากนักลงผิดหวังที่ทางบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ต่ำกว่าคาด ส่วนหุ้นจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ปิดบวก 1% หลังจากจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน เปิดเผยว่าจะเข้าซื้อกิจการบริษัทซิสเธส อิงค์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์ เป็นวงเงินมูลค่า 2.13 หมื่นล้านดอลลาร์
ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงหนุนเพิ่มขึ้นเมื่อกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน หรือสินค้าที่มีอายุการใช้งานนานกว่า 3 ปี พุ่งขึ้น 2.5% ในเดือนมี.ค.ทำสถิติเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3
สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญด้านอื่นๆในสัปดาห์นี้ โดยวันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาสแรกปีนี้ และสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐจะเปิดเผยยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนมี.ค. ส่วนวันศุกร์ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยรายได้ส่วนบุคคลเดือนมี.ค. และกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีต้นทุนการจ้างงานไตรมาสแรกปีนี้