หุ้น JAS ราคาขยับขึ้น 3.55% มาอยู่ที่ 3.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.12 บาท มูลค่าซื้อขาย 386.23 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.06 น. โดยเปิดตลาดที่ 3.48 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 3.54 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 3.46 บาท
บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย)ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"สะสม"หุ้น บมจ.จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล(JAS)ราคาเหมาะสม 3.92 บาท เนื่องจาก JAS ถือเป็นหลักทรัพย์ที่กลับมา Turnaround ด้วยภาพของธุรกิจที่ชัดเจน หลังผู้บริหารกลับมามุ่งธุรกิจบรอดแบนด์อย่างชัดเจน “3BB" ณ สิ้นปี 2553 ฐานลูกค้าอยู่ที่ราว 8 แสนราย ส่วนแบ่งการตลาด 27.6% เทียบกับ TRUE ที่มีส่วนแบ่งการตลาด 28.3% แม้ว่า TRUE จะทำธุรกิจนี้มานานกว่า JAS ก็ตาม สะท้อนความสามารถในการเพิ่มฐานลูกค้าได้อย่างโดดเด่นของ JAS
JAS ตัดสินใจลงโครงข่ายเคเบิ้ลใยแก้วเองในปลายปีที่แล้ว เพื่อตัดปัญหาการเช่าโครงข่ายของ TT&T ซึ่งโครงข่ายใหม่นี้ได้เสร็จสิ้นแล้ว สามารถรองรับฐานลูกค้าได้ 1.5 ล้านเลขหมาย และสามารถขยายฐานลูกค้าได้ ด้วยการเพิ่มการลงทุน แต่จะเป็นมูลค่าที่ไม่มากแล้ว ซึ่งจุดนี้กลายเป็นจุดเด่นของ JAS เมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่าง TOT — TRUE ซึ่งเป็นโครงข่ายรุ่นเก่า บนระบบทองแทง การส่งสัญญาณจะไม่คงที่เท่ากับเคเบิ้ลใยแก้ว
นอกจากนี้ ได้ประมาณการ 1Q54 ของ JAS จะสามารถทำกำไรสุทธิได้ราว 356 ล้านบาท เติบโต 136% yoy และ 11% qoq จากฐานลูกค้าที่เพิ่มขึ้น 6.6 หมื่นรายในไตรมาสนี้ ส่งผลให้ฐานลูกค้า ณ สิ้นไตรมาส อยู่ที่ 8.6 แสนราย
พร้อมคาดแนวโน้มใน Q2 — Q3 จะเติบโตต่อเนื่องลักษณะ qoq ขึ้นไป จากผลของฤดูกาล และการร่วมธุรกิจกับ ADVANC ในการให้บริการ WiFi ตั้งแต่เดือนมี.ค.ที่ผ่านมา ล่าสุด จำนวนผู้ใช้บริการส่วนนี้ 5 หมื่นราย จำนวน Hot Spots อยู่ที่ 2 หมื่นตำแหน่ง ตั้งเป้าจำนวนผู้ใช้บริการได้ 4.5 — 5.0 แสนราย ในปีนี้ พร้อมขยายจำนวน Hot Spots เป็น 5 หมื่นตำแหน่ง ภายในสิ้นปีนี้
และทำให้ภาพรวมในปี 2554 คาดว่า JAS จะสร้างการเติบโตของกำไรปกติได้มากถึง 59% yoy เป็น 1.6 พันล้านบาท เป็นระดับกำไรปกติที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากการเติบโตของธุรกิจ บรอดแบนด์ เป็นสำคัญ
ราคาเหมาะสม 3.92 บาทด้วยวิธี DCF และมูลค่าเหมาะสมจะเพิ่มขึ้นอีก 0.17 บาท/หุ้น หาก DTAC ตัดสินใจให้ JAS เป็นผู้ให้บริการ WiFi ในส่วนแบ่งรายได้ 70:30 เช่นเดียวกับ ADVANC