นายชนะชัย จุลจิราภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.โกลเบล็ก(GLOBLEX) เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า สืบเนื่องจากแผนการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ยังไม่สามารถทำได้ในตอนนี้ เนื่องจากติดข้อจำกัดของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)บางประการ ในเรื่องที่รายได้หลักของบมจ.โกลเบล็ก โฮลดิ้ง แมนเนจเม้นท์(GBX)มาจากธุรกิจหลักทรัพย์ ดังนั้น บล.โกลเบล็ก จึงจำเป็นจะต้องรอจนกว่า GBX จะสามารถสร้างรายได้ที่มั่นคงเอง
และด้วยความที่บริษัทฯถือเป็นบริษัทที่มีขนาดไม่ใหญ่นัก มีความเสียเปรียบบ้างในด้านเงินทุน ดังนั้น จึงต้องเน้นการเติบโตจากภายนอกด้วยการหาพันธมิตร(Partner) โดยขณะนี้บริษัทฯกำลังเจรจากับพันธมิตรต่างชาติ 2 ราย จากฮ่องกงและไต้หวัน ซึ่งการเจรจาจะพยายามสรุปให้ได้โดยเร็วภายในปีนี้ ก่อนเปิดเสรีโบรกเกอร์ในปี 55
"ตอนนี้บริษัทฯกำลังเจรจากับพันธมิตรต่างชาติอยู่ 2 ราย เป็นฮ่องกง และไต้หวัน ซึ่ง Partner นี้ทางบริษัทฯก็ได้มีการร่วมมือกันทำงานในด้าน IB กันอยู่แล้ว และขณะนี้ทางต่างชาติได้ตอบรับเรากลับมาแล้วว่าสนใจที่จะเข้าลงทุนในบริษัทฯ"นายชนะชัย กล่าว
อย่างไรก็ตาม ยังมีประเด็นที่ทางพันธมิตรสนใจจะเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่เกินกว่า 50% ซึ่งก็ต้องขึ้นกับทางผู้ถือหุ้นใหญ่จะยอมขายหุ้นให้หรือเปล่า เรื่องนี้ก็ต้องมีการหารือกับผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทฯก่อน นอกจากนี้ ยังมีรายละเอียดเรื่องราคาขาย และอื่น ๆ อีกในด้านความร่วมมือกันทางธุรกิจ จึงยังคงเร็วไปที่จะกำหนดกรอบว่าการเจรจาจะสำเร็จเมื่อใด แต่บริษัทก็ต้องการให้แล้วเสร็จภาย
"สิ่งที่บริษัทฯอยากได้จากพันธมิตรใหม่เป็นในเรื่องการสนับสนุนทางด้านเงินทุน และการมี Knowhow ให้ รวมถึงกลุ่มลูกค้า เพราะปัจจุบัน GLOBLEX ไม่มีฐานลูกค้าต่างชาติ"นายชนะชัย กล่าว
*ขยายช่องทางสร้างรายได้-ชู Model Trade สร้างผลตอบแทนที่ดี
นายชนะชัย กล่าวต่อว่า หากเปิดเสรีโบรกเกอร์ในปีหน้าบนสมมติฐานว่าบริษัทยังไม่มี Partner ก็ต้องกลับมาดูตัวเองที่บริษัทเป็น Retail เมื่อเปิดเสรีแล้ว รายได้จากค่าคอมมิชชั่นโดยปกติก็คงจะปรับตัวลงแน่นอน ดังนั้น บริษัทจะต้องมีการกระจายการหารายได้(Diversify)โดยจะไม่พึ่งพิงรายได้จากธุรกิจหลักทรัพย์เพียงอย่างเดียว ซึ่งปัจจุบันรายได้จากธุรกิจหลักทรัพย์มีสัดส่วน 60% ถือว่าใช้ได้
นอกจากนี้ ก็ยังต้องมีการพัฒนาระบบคอมพิวเตอร์ โดยมีการนำ Model Trade ออกมาพัฒนาให้ใช้งานได้มากขึ้น จากเดิมจะใช้กับ Set50 แต่ปัจจุบันก็ได้มีการพัฒนานำมาใช้กับตัวหุ้นด้วย โดยมีปัจจัยพื้นฐานรองรับ ซึ่งจะให้ผลตอบแทนที่ดีโอกาสที่นักลงทุนจะทำกำไรได้มีค่อนข้างสูง
รวมทั้งทางบริษัทได้เริ่มให้บริการธุรกิจ SBL แล้วเมื่อไม่นานนี้ หลังจากที่ได้ใบอนุญาตมานานแล้ว แต่ระบบยังไม่พร้อม ซึ่งขณะนี้ระบบพร้อมแล้ว และหากมีลูกค้ามาใช้บริการมากก็จะทำให้บริษัทมีรายได้จากดอกเบี้ยการให้ยืมหุ้น ถือเป็นช่องทางเพิ่มรายได้อีกทางหนึ่งเข้ามาด้วย
*ตั้งเป้ามาร์เก็ตแชร์หลักทรัพย์โต 10%, รักษาแชมป์มาร์เก็ตแชร์ TFEX
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร GLOBLEX กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทฯตั้งเป้าที่จะขยายส่วนแบ่งการตลาดธุรกิจหลักทรัพย์(มาร์เก็ตแชร์)เติบโตประมาณ 10% จากปี 53 ที่มีมาร์เก็ตแชร์อยู่กว่า 2% และปัจจุบันบริษัทมีมาร์เก็ตแชร์อยู่ประมาณ 2.48% (Year to date)ถือว่าทำได้ใกล้เคียงกับเป้าหมายที่วางไว้
ส่วนลูกค้าธุรกิจหลักทรัพย์ปัจจุบันมีอยู่กว่า 12,000 ราย เป็นบัญชีที่มีการ Active ประมาณ 27% ส่วนใหญ่เป็นลูกค้ารายย่อยเป็นหลัก แต่บริษัทฯก็มีลูกค้าบางสถาบันที่ส่งออเดอร์ซื้อ/ขายมาให้บ้างแต่ไม่เกิน 10% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด ถือว่ายังน้อยอยู่
"ปัจจุบัน พอร์ตการลงทุนของบริษัทฯเฉลี่ยหมุนเวียนใช้กันอยู่มีวงเงินกว่า 100 ล้านบาท ก็ยังสร้างผลกำไรให้บริษัทฯได้ดีพอควร แต่ในแง่ของวงเงินของพอร์ตลงทุนมีอยู่หลายร้อยล้าน ซึ่งตามข้อกำหนดของสมาคมโบรกฯกำหนดไว้ให้ไม่เกิน 75% ของ Equity แต่เมื่อมีวงเงินก็ยังไม่จำเป็นที่จะต้องใช้ก็ได้"ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร GLOBLEX กล่าว
นายชนะชัย กล่าวต่อว่า ส่วนธุรกิจ TFEX ปีนี้ตั้งเป้ารักษาแชมป์ครองส่วนแบ่งการตลาดในอันดับที่ 1 ไปก่อน โดยปัจจุบันมีมาร์เก็ตแชร์จากธุรกิจ TFEX 12.38% ซึ่งการจะทำให้มาร์เก็ตแชร์เติบโตขึ้นอีกคงจะต้องขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย
"ที่จริงก็อยากจะออกขายใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์(DW)เหมือนกัน แต่เนื่องจากบริษัทฯไม่มีเงินทุนมาก เพราะการออก DW ต้องใช้เงินในการซื้อหุ้นเข้าพอร์ตจำนวนมาก จึงจำเป็นจะต้องมีเงินทุนมาใช้เป็นพันล้านบาท แต่ปัจจุบันบริษัทฯมีเงินทุนไว้ใช้เป็นเงินหมุนเวียน และปล่อยมาร์จินโลน รวมถึงใช้ในการลงทุน แต่ถ้ามี Partner ต่างประเทศเข้ามา มันก็จะชัดขึ้น เพราะปัจจุบันบริษัทฯมีผู้เชี่ยวชาญด้าน Derivative อยู่หลายคน เรียกได้ว่าบุคลากรพร้อม แต่ขาดเงินทุนหนุน"นายชนะชัย กล่าว
*เล็งงบฯ Q1/54 ดีกว่า Q1/53 หลังลูกค้าเทรดหุ้นกันมากขึ้น,ลุ้นดัชนีแตะ 1,300-1,400 จุดปีนี้
นายชนะชัย กล่าวว่า ผลประกอบการงวดไตรมาส 1/54 ก็คาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ดีกว่างวดเดียวกันของปีก่อน(Q1/53) เนื่องจากบริษัทฯมีลูกค้ารายใหญ่ และนักลงทุนประเภทเก็งกำไรเข้ามาเล่นกันมากเพราะภาวะตลาดฯอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ปัจจุบันฐานลูกค้าของบริษัทฯก็มีเพิ่มขึ้น
อีกทั้งบริษัทฯก็มีการกระจายรายได้ด้วย โดยจากเดิมบริษัทจะพึ่งพิงรายได้จากหลักทรัพย์ แต่ตอนนี้ก็มีการรกระจายออกไปในตลาด TFEX ซึ่งตลาดฯนี้นักลงทุนสามารถเล่นได้ทั้งสองขา ทั้งตลาดขาขึ้น และตลาดขาลง อีกทั้งยังมีการหารายได้จากพอร์ตลงทุนด้วย ซึ่งก็เป็นการขยายช่องทางการหารายได้
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร GLOBLEX มองภาพโดยรวมของตลาดหุ้นไทยในปีนี้ หากผลประกอบการโดยรวมของพวก Real Sector ออกมาดี มีผลกำไรไม่ต่ำกว่า 15-20% เชื่อว่าดัชนี SET ก็คงจะมีโอกาสปรับตัวขึ้นถึงระดับ 1,300-1,400 จุดได้ไม่ยาก เพราะเมื่อกำไรของบริษัทฯมีการเติบโตดี ค่า P/E ของตลาดฯก็จะยิ่งถูก ทำให้เป็นที่สนใจของนักลงทุน
เพียงแต่จะต้องขึ้นอยู่กับจังหวะในการลงทุนด้วย(Timing)ซึ่งขณะนี้ก็จะมีเรื่องของการเมืองในประเด็นการยุบสภา อย่างไรก็ดี มองว่าสภาพคล่องในระบบยังมีอยู่สูง เม็ดเงินลงทุนในตลาดโลกมีอยู่จำนวนมาก ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้นในสหรัฐฯ และยุโรป ซึ่งมองว่าขณะนี้ทางสหรัฐฯก็ยังมีการฟื้นตัวไม่มาก ส่วนทางยุโรปปัญหาทางด้านการเงินก็ยังไม่จบในบางประเทศ ดังนั้น ตัวเลือกของนักลงทุนต่างชาติจึงมีไม่มาก หากผลกำไรของตลาดบ้านเรามีมากก็จะทำให้เป็นจุดดึงดูดให้นักลงทุนมาซื้อหุ้นไทยได้
"เวลานี้นักลงทุนต่างชาติให้น้ำหนักลงทุนไปที่จีน และอินเดียมาก เพราะ WEALTH ของคนจีนสูงมาก กองทุนต่างชาติจึงมองจีนอย่างมาก ส่วนไทยจัดอยู่ในกลุ่มตลาด TIP ซึ่งนักลงทุนต่างชาติก็ให้น้ำหนักมาลงทุนด้วยเหมือนกัน เพราะเห็นว่ายังมีการเติบโตได้อีกมาก"ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร GLOBLEX กล่าว
*เหตุ"ภาคภูมิ"ลาออกจาก GBX จะไปทำบ้าน-แต่งงาน
นายชนะชัย กล่าวว่า ส่วนเรื่องที่คุณภาคภูมิ ภาคย์วิศาล ได้ลาออกจากตำแหน่งกรรมการผู้จัดการของ GBX นั้น คงเป็นเพราะทางนายภาคภูมิกำลังจะแต่งงาน และก็ได้มีการสร้างบ้านอยู่นานแล้ว แต่ไม่เสร็จซะที ดังนั้นจึงออกไปทำบ้าน และนายภาคภูมิคงจะไม่ถนัดในเรื่องการเทรดทองด้วย เพราะเชี่ยวชาญด้านอนุพันธ์(Derivative)มากกว่า
"ส่วนตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ GBX ตอนนี้ก็ยังไม่ได้ใคร แต่ให้คุณธนพิศาล คูหาเปรมกิจ รักษาการในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการไปก่อน"นายชนะชัย กล่าว