"เอสบีเคฯ"โต้ข้อกล่าวหานอมินีเป๊ปซี่ ตั้งข้อสงสัยจุดประสงค์ผู้ยื่นฟ้อง

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday April 28, 2011 13:51 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บริษัท เอสบีเค เบฟเวอเรจ จำกัด ชี้แจงกรณีผู้ถือหุ้นรายย่อยรายหนึ่งของบมจ.เสริมสุข(SSC) ยื่นฟ้องคดีต่อศาลแพ่งเมื่อวันที่ 5 เม.ย.54 กล่าวหาบริษัทฯ โดยไม่มีหลักฐานที่น่าเชื่อถือว่าบริษัทฯ เป็นตัวแทนหรือนอมินีถือหุ้นแทนบริษัทต่างชาติ ประกอบกิจการโดยผิดกฎหมาย เป็นกลุ่มเดียวกับบริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด มีจุดประสงค์ในการลงทุนใน SSC เพื่อครอบงำกิจการ อันเป็นเหตุให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษาไม่ให้บริษัทฯ เข้าประชุมผู้ถือหุ้น

รวมทั้งให้ถอนชื่อออกจากการเป็นผู้ถือหุ้นของ SSC ซึ่งเป็นการลิดรอนสิทธิพื้นฐานของบริษัทฯที่ได้รับการรับรองโดยชอบตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งลงทุนใน SSC มากกว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งข่าวดังกล่าวก่อให้เกิดความเข้าใจผิดและความเสียหายต่อบริษัทฯ เป็นอันมาก

เอสบีเคได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงว่า บริษัทฯ มีบริษัทเครื่องดื่มรายใหญ่ของประเทศญี่ปุ่นเป็นผู้ถือหุ้น และบริษัทฯได้เข้าซื้อหุ้นของ SSC ในเดือน ก.พ. 54 ซึ่งในการเข้าลงทุนได้ทำการพิจารณาผลประกอบการของ SSC และโอกาสในเชิงพาณิชย์ที่บริษัทอาจจะได้รับในอนาคตจากการดำเนินธุรกิจร่วมกับ SSC เพื่อขยายธุรกิจเครื่องดื่มในประเทศไทย

สำหรับข้อกล่าวหาว่าบริษัทฯ เป็นนอมินีให้บริษัทต่างชาติบริษัทหนึ่งเพื่อเข้ามาประกอบกิจการในไทยโดยเลี่ยงการปฏิบัติตามกฎหมายการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว เป็นกลุ่มเดียวกับบริษัทเป๊ปซี่ และร่วมกันเข้ามาครอบงำ SSC และหลีกเลี่ยงไม่ทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ของ SSC ตามหน้าที่ที่กำหนดภายใต้กฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และกล่าวหาว่าการที่บริษัทฯ ได้หุ้นของบริษัทเสริมสุขมานั้น ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ล้วนแต่เป็นข้อกล่าวหาที่เลื่อนลอยและปราศจากข้อเท็จจริง

บริษัทฯ ไม่ต้องการมีส่วนเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งระหว่างกลุ่ม Pepsi กับบริษัท เอส เอส เนชั่นแนลโลจิสติกส์ จำกัด หรือผู้บริหารของ SSC แต่อย่างใด โดยเข้ามาลงทุนเพื่อได้รับผลตอบแทนอย่างผู้ถือหุ้นทุกรายของ SSC รวมทั้งเล็งเห็นโอกาสในทางธุรกิจในอนาคตที่บริษัทสามารถดำเนินการร่วมกันกับ SSC เพราะ SSC มีช่องทางการจัดจำหน่ายที่มีประสิทธิภาพอันจะทำให้บริษัทฯ สามารถจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของผู้ถือหุ้นของบริษัทฯได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ แผนธุรกิจของ SSC ในอนาคตมีความสอดคล้องกับความชำนาญและความเชี่ยวชาญของบริษัทฯในธุรกิจเครื่องดื่ม

เอสบีเคฯ ระบุว่า จากการสร้างเรื่องขึ้นมาของผู้ถือหุ้นรายเล็ก ๆ เพียงรายเดียว จนทำให้ศาลออกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวเนื่องจากข้อมูลที่เป็นเท็จดังกล่าว และห้ามบริษัทฯ ไม่ให้มีสิทธิออกเสียงและสิทธิอื่น ๆ ที่บริษัทฯ พึงจะมีในฐานะผู้ถือหุ้นของ SSC จนกว่าศาลจะสั่งเป็นอย่างอื่น ก่อให้เกิดความเสียหายเป็นอย่างมากต่อบริษัทฯ ซึ่งเป็นผู้ลงทุนโดยสุจริตในการซื้อหุ้น SSC มากกว่า 1,000 ล้านบาทโดยผ่านระบบซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์ซึ่งมีการกำกับดูแลโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและมีกฎหมายและกฎเกณฑ์รองรับ

ทั้งนี้ มีข้อสังเกตว่าผู้ถือหุ้นรายย่อยดังกล่าวถือหุ้นใน SSC เพียง 3,100 หุ้น คิดเป็นมูลค่าการลงทุนไม่เกิน 155,000 บาท แต่กลับยินยอมวางเงินประกันต่อศาลถึง 500,000 บาทเพื่อให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวดังกล่าว ทำให้มีข้อน่าสงสัยถึงมูลเหตุจูงใจในการกระทำดังกล่าว เพราะเป็นการกระทำที่ไม่สมเหตุสมผลกับเงินลงทุนของตนเอง หรือจะเป็นการกระทำที่มุ่งประสงค์ต่อผลอื่นใด อีกทั้ง ผู้ถือหุ้นรายย่อยรายนี้ก็ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียหรือความเสียหายจาการกระทำของบริษัท ที่จะเป็นเหตุให้ต้องนำคดีฟ้องร้องเพื่อคุ้มครองตนเองไม่ว่าในทางใด

เหตุการณ์นี้ถือเป็นเหตุการณ์รุนแรงที่บริษัทฯ และผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้นได้กับการลงทุนในประเทศไทย ซึ่งเป็นประเทศที่บริษัทชั้นนำในญี่ปุ่นให้ความเชื่อถือและมีความมั่นใจในการลงทุน อันจะส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจลงทุนในประเทศไทยของนักลงทุนต่างประเทศ โดยเฉพาะนักลงทุนญี่ปุ่น เนื่องจากมีความไม่มั่นใจในมาตรฐานการคุ้มครองผู้ลงทุนที่ประกอบธุรกิจโดยชอบด้วยกฎหมาย ทำให้ประเทศไทยได้รับความเสียหายทางเศรษฐกิจอย่างมาก

ในการลงทุนของบริษัทฯได้ยึดถือหลักสำคัญว่าจะต้องปฏิบัติตามกฎเกณฑ์และกฎหมายของประเทศนั้น ๆ บริษัทฯ จะได้แสดงให้เห็นว่าบริษัทปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดในกระบวนการพิจารณาคดีต่อไปเพื่อปกป้องชื่อเสียงและสิทธิตามกฎหมายของบริษัทฯ ซึ่งบริษัทฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับความเป็นธรรมจากการดำเนินการในกระบวนการยุติธรรมในประเทศไทย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ