ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดพุ่งขึ้นแข็งแกร่งในวันนี้ (29 เม.ย.) โดยดัชนีทะยานขึ้นไปแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เกิดแผ่นดินไหวและสึนามิเมื่อวันที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากบรรยากาศการซื้อขายในตลาดได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนมีมุมมองที่เป็นบวกต่อแนวโน้มผลผลิตภาคอุตสาหกรรม แม้ผลผลิตในภาคส่วนดังกล่าวร่วงลงหนักสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนมี.ค.ก็ตาม
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปิดพุ่งขึ้น 157.90 จุด หรือ 1.63% แตะที่ 9,849.74 จุด
ราคาหุ้นร่วงลงเกือบทุกกลุ่ม โดยหุ้นกลุ่มขนส่งทางอากาศทะยานขึ้นแข็งแกร่งสุด ตามด้วยหุ้นกลุ่มผู้ผลิตแก้วและเซรามิก และกลุ่มผลิตภัณฑ์ยาง ส่วนหุ้นกลุ่มเบ็ดเตล็ดซึ่งรวมถึงบริษัทผลิตเกมรายใหญ่อย่างนินเทนโด และกลุ่มขนส่งทางทะเล ปรับตัวลดลง
โบรกเกอร์กล่าวว่า ตลาดหุ้นโตเกียวพุ่งขึ้นแข็งแกร่งเพราะได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของตลาดหุ้นนิวยอร์ก ซึ่งเป็นผลมาจากการที่นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินของสหรัฐ หลังจากนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยืนยันว่า เฟดจะเดินหน้าใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบสอง (QE2) ไปจนถึงกลางปี
กระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นในเดือนมี.ค.ร่วงลงรุนแรงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 15.3% หลังจากถูกกระทบอย่างหนักจากแผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิเมื่อวันที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนไม่ได้ให้น้ำหนักกับรายงานดังกล่าว และหันไปขานรับผลการสำรวจความคิดเห็นของนักวิเคราะห์ซึ่งจัดทำโดยกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมญี่ปุ่นที่ระบุว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมมีแนวโน้มขยายตัว 3.9% ในเดือนเม.ย. และคาดว่าจะขยายตัวขึ้นอีก 2.7% ในเดือนพ.ค.
นอกจากนี้ โบรกเกอร์กล่าวว่า ตลาดหุ้นโตเกียวได้แรงหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทเอกชน ก่อนที่จะถึงวันหยุดโกลเด้นวีคในญี่ปุ่นซึ่งจะเริ่มขึ้นในวันพรุ่งนี้