นายวุฒิชัย ลีนะบรรจง ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.แคปปิทอล เอ็นจิเนียริ่ง เน็ตเวิร์ค(CEN) เปิดเผยว่า แผนการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของ บมจ.เอื้อวิทยา คงจะเห็นในช่วงปลายไตรมาส 2/54 ถึงต้นไตรมาส 3/54 ซึ่งล่าช้าจากแผนเดิมที่คาดว่าดำเนินการในครึ่งแรกของปี 54 เนื่องจากติดขัดบางขั้นตอน รวมทั้งต้องการรองบการเงินไตรมาสแรกออกมาก่อนด้วย
ทั้งนี้ รายได้ของบมจ.เอื้อวิทยา คาดว่าจะเติบโต 10-15% จากปีก่อน หรือมีรายได้ประมาณ 1 พันล้านบาท
สำหรับ CEN ตั้งเป้ารายได้รวมในปี 54 เติบโต 10-15% จากปีก่อนที่มีรายได้ 1,397 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเติบโตจากบริษัทย่อย ทั้ง บมจ.เอื้อวิทยา, บริษัท เอ็นเนซอล และ บริษัท ระยองไวร์ ที่ในปีนี้มีปริมาณงานที่เพิ่มขึ้น การออกผลิตภัณฑ์ใหม่ รวมทั้งได้รับผลดีจากราคาเหล็กที่ปรับเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ราคาขายต่อหน่วยเพิ่มขึ้นด้วยและทำให้มีรายได้ที่มากขึ้น ซึ่งปัจจุบันบริษัทได้มีการสต็อคเหล็ก 2 เดือนครึ่ง เพิ่มขึ้นจาก 2 เดือนในช่วงที่ผ่านมา
ขณะที่ความสามารถในการทำกำไรในปี 54 ก็คาดว่าจะดีกว่าปี 53 เนื่องจากมีรายได้เพิ่มขึ้น ประกอบกับธุรกิจขุดเจาะอุโมงค์ให้อัตรากำไร(มาร์จิ้น)ที่ดี และจะสร้างรายได้เข้ามาเต็มปี รวมถึงโรงไฟฟ้าที่จะก่อสร้างเสร็จในปีนี้
นายวุฒิชัย กล่าวว่า ในปีนี้คาดว่าจะเห็นการเข้าลงทุนใน 2-3 ธุรกิจ ซึ่ง 1 ในนั้นจะเป็นธุรกิจด้านพลังงาน และที่เหลือเป็นธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจหลักของบริษัท ซึ่งก็จะเป็นการต่อยอดธุรกิจ รวมทั้งการเพิ่มรายได้ในอนาคตที่มากขึ้นด้วย โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาสัดส่วนการเข้าถือหุ้น นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาธุรกิจไบโอแมส ซึ่งคงจะเป็นลักษณะการร่วมทุน แต่คงจะเห็นในปี 55
"เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นผ่านไปจะทำให้มีการซ่อมแซม ซึ่งก็จะดีกับธุรกิจของบริษัทที่มีทั้งวัสดุก่อสร้าง พลังงาน และธุรกิจใหม่ คือ ขุดเจาะอุโมงค์ และปีนี้ก็จะเห็นเราในการสร้างโรงไฟฟ้า ที่คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 54 และยังมีการเจราเพิ่ม อย่างเร็วก็คงรู้ภายใน 1-2 เดือนข้างหน้า และตอนนี้เราก็สนใจเข้าไปรับงานในธุรกิจปิโตรเคมี เพราะมองว่าเป็นธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตดี รวมทั้งมองหาธุรกิจใหม่ ๆ เพื่อที่จะสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้น"นายวุฒิชัย กล่าว