ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: ผลประกอบการเอกชนหนุนตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเป็นวันที่หก

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกติดต่อกัน 6 วันทำการเมื่อคืนนี้ (28 เม.ย.) โดยดัชนีตลาดหุ้นยุโรปพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 8 สัปดาห์ หลังจากบริษัทหลายแห่งในยุโรปรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่ง รวมถึงดอยช์แบงก์ เอจี นอกจากนี้ ตลาดยังขานรับธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ให้คำมั่นสัญญาว่าจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไปอีก

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดบวกขึ้น 70.27 จุด หรือ 0.95% แตะที่ 7,475.22 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 7,426.62-7,480.33 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดบวก 37.18 จุด หรือ 0.91% แตะที่ 4,104.90 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 4,080.15-4,107.90 จุด

ดัชนี FTSEurofirst 300 ซึ่งเป็นดัชนีหุ้นบลูชิพในตลาดยุโรปปิดบวก 0.39 % แตะที่ 1,153.70 จุด และดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดบวก 0.3% แตะที่ 283.04 จุด

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกติดต่อกัน 6 วันทำการเนื่องจากนักลงทุนยังคงขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทในยุโรป โดยหุ้นดอยช์แบงก์ เอจี พุ่งขึ้น 4.8% หลังจากธนาคารเปิดเผยรายได้สุทธิไตรมาสแรกเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 2.1 พันล้านยูโร หรือ 3.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

หุ้นสุเอซ เอ็นไวรอนเมนท์ ซึ่งเป็นบริษัทสาธารณูปโภครายใหญ่ของฝรั่งเศสปิดบวก 4% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรไตรมาสแรกเพิ่มขึ้น 29%

หุ้นสแตนดาร์ด ไลฟ์ ซึ่งเป็นบริษัทประกันภัยรายใหญ่ของอังกฤษ พุ่งขึ้น 3.2% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้ไตรมาสแรกเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 5.8 พันล้านปอนด์ (9.7 พันล้านดอลลาร์) สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 4.94 พันล้านปอนด์ แต่หุ้นยูนิลีเวอร์ร่วงลง 2.4% แม้บริษัทเปิดเผยยอดขายไตรมาสแรกสูงขึ้น 4.3% ก็ตาม

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังได้แรงหนุนจากการที่คณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟดยืนยันว่าจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำ 0-0.25% ต่อไปอีกระยะเพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และตลาดยังได้ปัจจัยบวกหลังจากทางการเยอรมนีรายงานว่า จำนวนคนว่างงานในประเทศลดลงต่ำกว่าระดับ 3 ล้านรายเป็นครั้งแรกในรอบ 19 ปี เนื่องจากเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของประเทศช่วยกระตุ้นตลาดแรงงาน