บริษัท เอสบีเค เบฟเวอเรจ จำกัด แถลงว่า ดำเนินการฟ้องร้อง บริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด บมจ.เสริมสุข(SSC) และนายศารัช โชคแจ่มใส ผู้ถือหุ้นรายย่อยของ SSC เป็นเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายอันเกิดจากการดำเนินการของบุคคลดังกล่าวในการลิดรอนสิทธิขั้นพื้นฐานในฐานะผู้ถือหุ้นที่บริษัทฯ พึงมีตามกฎหมาย และศาลแพ่งกรุงเทพใต้ก็ได้รับคำฟ้องดังกล่าวไว้พิจารณาแล้ว
ทั้งนี้ เอสบีเคฯ ได้ซื้อหุ้น SSC จำนวน 24,269,700 หุ้นผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยโดยชอบด้วยกฎหมาย คิดเป็นมูลค่าการลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท แต่กลับถูกตัดสิทธิตามกฎหมายในฐานะผู้ถือหุ้น ตามคำสั่งศาลแพ่ง ซึ่งออกให้ตามคำขอของนายศารัช ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้น SSC เพียง 3,100 หุ้น คิดเป็น 0.001% มีมูลค่าการลงทุนประมาณแสนกว่าบาท
ซึ่งข้อเท็จจริงนี้เป็นที่ประจักษ์ในคดีดังกล่าว การที่บริษัทได้ซื้อหุ้น SSC ไม่สามารถจะก่อให้เกิดความเสียหายใด ๆ แก่นายศารัช แต่บริษัทถูกคำสั่งศาลแพ่งระงับการใช้สิทธิในการออกเสียงและระงับการบันทึกให้บริษัทเป็นผู้ถือหุ้นของ SSC แสดงให้เห็นว่าผู้ถือหุ้นเพียง 0.001% สามารถที่จะลิดรอนสิทธิพื้นฐานของผู้ถือหุ้น 9.13% ซึ่งเป็นที่ที่นักลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศทำการซื้อขายหลักทรัพย์จดทะเบียนของบริษัทจดทะเบียนในประเทศไทย
จากการที่บริษัทถูกตัดสิทธิพื้นฐานในการเป็นผู้ถือหุ้นของ SSC จึงยื่นคำร้องฉุกเฉินเพื่อขอยกเลิกคำสั่งศาลดังกล่าวเมื่อวานนี้เวลาประมาณ 8.30 น.และจัดเตรียมพยานหลักฐานเข้าสืบพยานต่อศาล เนื่องจาก SSC จัดประชุมผู้ถือหุ้นสามัญประจำปีในวันนี้ ดังนั้นจึงมีเหตุฉุกเฉินที่บริษัทจำต้องขอความเป็นธรรมต่อศาลแพ่ง เพื่อให้บริษัทสามารถเข้าประชุมดังกล่าวได้ ตามที่เชื่อว่าบริษัทควรมีสิทธิโดยชอบเนื่องจากเป็นผู้ถือหุ้น SSC มาตั้งแต่วันที่ 23 ก.พ.54 ศาลแพ่งได้รับคำร้องของบริษัทไว้แล้วเพื่อพิจารณา และทนายของโจทก์ก็ได้มาที่ศาล แต่ศาลแพ่งกลับนัดพิจารณาคำร้องฉุกเฉินดังกล่าวในวันที่ 2 พ.ค.54 ซึ่งเป็นเวลา 2 วันหลังจากที่ประชุมสามัญของผู้ถือหุ้น SSC
การที่บริษัทฯ ถูกกีดกันมิให้เข้าร่วมประชุมสามัญผู้ถือหุ้นของ SSC ในวันนี้ส่งผลให้การประชุมผู้ถือหุ้นสามัญประจำปีของ SSC รวมทั้งมติใด ๆ ที่ได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย บริษัทฯ จึงได้ยื่นคัดค้านการจดทะเบียนใดๆ อันเกี่ยวกับการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นของ SSC และมติของที่ประชุมนั้นต่อนายทะเบียนบริษัทมหาชน กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ไว้แล้วในวันนี้
ตามกฎเกณฑ์ของกระทรวงพาณิชย์ซึ่งใช้ปฏิบัติมาโดยตลอด นายทะเบียนจะไม่รับจดทะเบียนที่มีการคัดค้านจากบุคคลใด ๆ ที่เกี่ยวข้อง แต่จะดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงและเรียกให้ผู้ที่ขอจดทะเบียน ซึ่งในที่นี้ก็คือ SSC ยื่นคำชี้แจงว่ามติที่ประชุมผู้ถือหุ้นที่ขอจดทะเบียนนั้นได้ดำเนินการโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ซึ่งการพิจารณาดังกล่าวจะเปิดโอกาสให้ผู้คัดค้านได้ใช้สิทธิในการเสนอข้อเท็จจริงเพิ่มเติมแก่นายทะเบียนด้วย โดยปกติกระบวนการพิจารณาและตรวจสอบข้อเท็จจริงของกระทรวงพาณิชย์ในกรณีดังกล่าวจะใช้เวลาไม่น้อยกว่า 15 วัน