(เพิ่มเติม) ผถห.SSCหนุนเลิกสัญญาเป๊ปซี่,รับผลิตยี่ห้ออื่นรายได้หดแต่มาร์จิ้นดีกว่า

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday April 29, 2011 16:57 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ที่ประชุมผู้ถือหุ้น บมจ.เสริมสุข(SSC)มีมติรับทราบและเห็นชอบให้บริษัทดำเนินการยกเลิกสัญญาระหว่างบริษัทและกลุ่มเป๊ปซี่โคฯ ด้วยคะแนนเสียงเสียงข้างมาก 99.4% ของผู้มีสิทธิออกเสียง โดยได้หักผู้มีส่วนได้เสียออก ซึ่งการยกเลิกสัญญานี้จะมีผลในวันครบกำหนดระยะเวลา 12 เดือนนับจากวันที่บอกกล่าว หรือมีผลตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.55

ก่อนที่จะให้ผู้ถือหุ้นลงคะแนนเสียง คุณหญิงสุชาดา กีระนันทน์ กรรมการอิสระ และกรรมการตรวจสอบ SSC แจ้งต่อที่ประชุมว่า ทางเสริมสุขไม่มีความประสงค์จะยกเลิกสัญญา แต่มองที่ผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้น เพราะต้องการมีอิสระที่จะดำเนินการจัดจำหน่ายเครื่องดื่มนอกเหนือเป็ปซี่ แต่ก็มีข้อจำกัด ส่วนเรื่องการกำหนดสูตรการคิดราคาหัวน้ำเชื้อที่บริษัทขอลดลงประมาณ 9%ต่อปี แต่ทางกลุ่มเป็ปซี่เสนอกลับมาที่ 8.6%ต่อปีนั้นยังเจรจาต่อรองกันได้

ขณะที่นายวรารัตน์ ชุติมิต จากบล.บัวหลวง ซึ่งเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวยอมรับว่า เมื่อเสริมสุขไม่ได้เป็นจัดจำหน่ายเครื่องดื่มเป็ปซี่รายได้จะหายไป 70% แต่ต้นทุนก็ลดลงด้วย ผู้ถือหุ้นไม่ต้องกังวล เพราะเสริมสุขมีศักยภาพ มีสินทรัพย์จำนวนมาก และที่สำคัญบริษัทไม่มีข้อจำกัดการทำธุรกิจ โดยเฉพาะเครื่องดื่มที่ไม่ใช่น้ำอัดลม ซึ่งสามารถทำร์จิ้นได้ดีกว่า

ในระหว่างการประชุมนายศิริวัฒน์ วรเวทย์วุฒิกุล นักลงทุนรายย่อย เสนอเพิ่มเติมวาระใหม่เกี่ยวกับแผนธุรกิจอนาคต จากที่กำหนด"การขยายตลาดเครื่องดื่มที่มิใช่น้ำอัดลม โดยการแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ๆสู่ตลาดภายใต้เครื่องหมายการค้าของบริษัทหรือการเข้าซื้อกิจการที่มีผลิตภัณฑ์ หรือเครื่องหมายการค้าที่ประสบความสำเร็จในตลาดอยู่แล้ว"

ส่วนเพิ่มเติมคือ "หรือโดยการเข้าทำสัญญารับจ้างหรือรับอนุญาตหรือได้รับสิทธิในการผลิตและจำหน่าย หรือเข้าทำสัญญาในรูปแบบอื่นใดสำหรับเครื่องดื่มที่มิใช่น้ำอัดลมภายใต้เครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่น บริษัทอาจดำเนินธุรกิจอย่างอื่นได้เท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับแผนธุรกิจในอนาคต ตัวอย่างเช่น การใช้ประโยชน์จากทรัพย์สินของบริษัท การดำเนินธุรกิจอื่นตามศัผกยภาพตามกรรมการจะเห็นสมควร"

ทั้งนี้ ที่ประชุมผู้ถือหุ้นได้ลงคะแนน 1 ใน 3 ของคะแนนเสียงทั้งหมดอนุมัติให้เพิ่มเติมข้อเสนอเพิ่มเติมอีกวาระหนึ่ง และได้อนุมัติตามที่เสนอมีมติเป็นเอกฉันท์

ระหว่างนั้นตัวแทนจาก บริษัท เป็ปซี่-โคล่า เนชั่นแนล โลจิสติกส์ จำกัด (ถือหุ้น 24.94%) และ ตัวแทนจาก Seven-Up Nederland B.V. (ถือหุ้น 16.60%) ได้ขอคัดค้านการตัดสิทธิที่ไม่ได้ลงคะแนนวาระดังกล่าว และให้บันทึกในรายงานการประชุมด้วย

อย่างไรก็ตาม นางเพียงพนอ บุญกล่ำ ที่ปรึกษาทางกฎหมาย จาก บริษัท วีระวงศ์ ชินวัฒน์ และ เพียงพนอ จำกัด กล่าวว่า กลุ่มเป็ปซี่สามารถกลับมาเจรจากับเสริมสุขได้ใหม่ แต่ต้องขออนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นก่อน เพราะคณะกรรมการไม่มีสิทธิตัดสินใจได้เอง

*กลุ่มเป็ปซี่แพ้โหวตตั้งกรรมการ 6 คน

ที่ประชุมผู้ถือหุ้น SSC มีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการ 6 คนที่ทางบริษัท เอสเอสเนชั่นแนลโลจิสติกส์ จำกัด(SSNL)ผู้ถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วน 32.60% แทนกรรมการ 6 คนที่ออกตามวาระ โดยกรรมการเดิมที่ได้รับเลือกกลับเข้าไป ได้แก่ นายโพธิพงษ์ ลำซำ และคุณหญิงสุชาดา กีระนันทน์ ส่วนกรรมการใหม่อีก 4 คน ได้แก่ นายเรวัติ ฉ่ำเฉลิม, นายวิษณุ เครืองาม, นายศักดิ์ชัย ธนบุญชัย และนายรังสรรค์ ธรรมมณีวงศ์ โดยมีคะแนนเสียงเกินกว่ากึ่งหนึ่งเล็กน้อย คือ เห็นด้วย 51.66% ทั้ง 6 คน

ขณะที่กรรมการที่ทางกลุ่ม บริษัท เป็ปซี่-โคล่า(ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด ซึ่งถือหุ้น 25.20% เสนอทั้ง 6 ราย คือ Mr.Ian Tero, Mr.Malcolm Thompson, นายทรงยศ. เรืองสกุลราช , Mr.William Raper, Mr.David Tarrant และ Mr.Howard. Bryant ไม่ได้รับการคัดเลือก

ปัจจุบัน คณะกรรมการ SSC มีจำนวนทั้งหมด 15 คน มีตัวแทนจากกลุ่มเป็ปซี่ 4 คน

*เปิดกว้างรับข้อเสนอแบรด์เครื่องดื่มใหม่-คู่แข่งเป็ปซี่

นายปริญญา เพิ่มพานิช ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและปฏิบัติการขาย SSC เปิดเผยหลังการประชุมผู้ถือหุ้นวันนี้ว่า ทางบริษัทจะรอฝ่ายกฎหมายตรวจสอบเกี่ยวกับข้อกฎหมายประมาณ 1-2 เดือนเพื่อจะเปิดเผยว่าจะนำสินค้าหรื่อเครื่องดื่มใดเข้ามาขายเป็นเครื่องดื่มหลักแทนเครื่องดื่มกลุ่มเป็ปซี่ หลังจากที่บริษัทได้ยกเลิก สัญญา Exclusive Bottling Appointment ระหว่างบริษัทกับกลุ่มเป็ปซี่ มีผลในวันที่ 1 เม.ย. 55

ทั้งนี้ คาดว่าเครื่องดื่มที่จะมาทดแทนดังกล่าวอาจจะทำยอดขายลดลง แต่จะสามารทำมาร์จิ้นได้สูงกว่าเครื่องดื่มเป็ปซี่ โดยปัจจุบันรายได้ของบริษัทมาจากเครื่องดื่มน้ำอัดลมของเป็ปซี่ 70% ของรายได้รวม ที่เหลือเป็นเครื่องดื่มน้ำคริสตัล น้ำดื่มโออิชิ และเครื่องดื่มคาราบาว

"รายได้อาจชดเชยไม่ได้แต่มาร์จิ้นคงไม่น้อยกว่ากัน เหตุผลที่เรายกเลิกสัญญา จะให้เราเป็นอิสระทำสินค้าอื่น...หลังจากวันนี้คงมีคนมาจีบเราเยอะ เราเปิดหมด แม้กระทั่งคู่แข่งของเป็ปซี่ เรายินดีต้อนรับ"นายปริญญา กล่าว

ทั้งนี้ เชื่อว่าอย่างน้อย 6 เดือนก่อนที่จะยกเลิกการขายเครื่องดื่มเป็ปซี่ ในวันที่ 1 เม.ย.55 บริษัทจะสามารถเตรียมพร้อมเครื่องดื่มใหม่ แต่ในช่วงเวลาที่เหลือประมาณ 11 เดือนก่อนถึงกำหนดยกเลิกสัญญา ทางเสริมสุขจะจำหน่ายเครื่องดื่มเป็ปซี่เป็นอย่างดีก่อนจะไม่ได้ขายอีกต่อไป เพราะช่วงเวลา 58 ปีที่ผ่านมาเสริมสุขได้ทำให้เป็ปซี่เป็นเจ้าน้ำดำในไทย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ