ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,093.56 จุด เพิ่มขึ้น 1.25 จุด(+0.11%) มูลค่าการซื้อขาย 33,707.43 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,094.48 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,082.20 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 182 หลักทรัพย์ ลดลง 213 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 155 หลักทรัพย์
น.ส.จิตรา อมรธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ส่วนใหญ่จะปรับตัวลงตามตลาดหุ้นอื่นในแถบภูมิภาคเอเชียที่ปรับตัวลงทั่วหน้า ภายหลังจากตัวเลข GDP ของสหรัฐฯออกมาต่ำกว่าที่หลายคนคาดการณ์กันไว้ ส่งผลให้เงินดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่า ซึ่งตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ควรจะปรับตัวขึ้น แต่ก็มีการปรับตัวขึ้นเพียงบางตัวเท่านั้น อย่างทองคำ เป็นต้น แต่ส่วนราคาน้ำมันไม่ขึ้น คิดว่าคงเป็นเพราะได้ขึ้นมามากแล้ว ตอนนี้ก็เลยดูนิ่ง ๆ
ส่วนตลาดบ้านเราก็มีหุ้นหลายตัวที่ประกาศผลประกอบการงวดไตรมาส 1/54 ออกมากันแล้ว อย่างหุ้น PTTEP, SCC จึงมี Sell on Fact ออกมา แต่ก็ยังมีการเล่นเก็งหุ้นขนาดเล็ก และขนาดกลางกัน จากการคาดการณ์ว่าผลประกอบการจะดี ส่วนปัจจัยการเมืองก็คงยังต้องติดตามดูต่อไป พร้อมแนะจับตาการพิจารณาอัตราดอกเบี้ยของต่างประเทศด้วย โดยในวันที่ 5 พ.ค.นี้จะมีการประชุมธนาคารกลางยุโรป(ECB)ซึ่งจะมีการพิจารณาอัตราดอกเบี้ย
"พอดัชนี SET หลุดแนว 1,095 จุด ก็เลยทำให้สภาพตลาดไม่ดีในทางเทคนิคด้วย"น.ส.จิตรา กล่าว
แนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้า น.ส.จิตรา กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยมีโอกาสที่จะอ่อนตัวลง โดยนักลงทุนต่างชาติคงจะยังซื้ออยู่ แต่กองทุนก็คงขายอยู่เหมือนกัน พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,080-1,110 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
JAS มูลค่าการซื้อขาย 1,810.56 ล้านบาท ปิดที่ 3.84 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท
CPF มูลค่าการซื้อขาย 1,398.39 ล้านบาท ปิดที่ 29.50 บาท ลดลง 0.50 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,371.91 ล้านบาท ปิดที่ 375.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,300.23 ล้านบาท ปิดที่ 185.00 บาท ลดลง 3.50 บาท
BBL มูลค่าการซื้อขาย 1,219.86 ล้านบาท ปิดที่ 170.00 บาท ลดลง 1.50 บาท