ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์บวก 0.15 จุดจากคาดการณ์ริโอทินโตเทคโอเวอร์อัลโค

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday May 4, 2011 06:47 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (3 พ.ค.) จากแรงซื้อที่ส่งเข้าหนุนหุ้นอัลโค อิงค์ ผู้ผลิตแร่อลูมิเนียมรายใหญ่ของสหรัฐ หลังจากมีการคาดการณ์ว่าบริษัทริโอทินโตจะยื่นข้อเสนอเทคโอเวอร์กิจการอัลโค อย่างไรก็ตาม ดาวโจนส์ขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน ขณะที่ดัชนี Nasdaq และ S&P 500 ปิดลบ เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการบริษัทเอกชน รวมถึงผลประกอบการที่อ่อนแอของไฟเซอร์ ซึ่งเป็นบริษัทผลิตยารายใหญ่

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 0.15 จุด หรือ 0.00% แตะที่ 12,807.51 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดลบ 4.60 จุด หรือ 0.34% แตะที่ 1,356.62 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดลบ 22.46 จุด หรือ 0.78% แตะที่ 2,841.62 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 4.5 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วน 2 ต่อ 1

ในช่วงเช้านั้น ดัชนีดาวโจนส์เปิดตลาดร่วงลง เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มพลังงานหลังจากราคาน้ำมันดิบร่วงลงอย่างหนัก นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการที่นักลงทุนผิดหวังรายงานผลประกอบการในภาคเอกชน รวมถึงบริษัทไฟเซอร์

แต่ดาวโจนส์ดีดตัวขึ้นมาเคลื่อนไหวในแดนบวกเพราะได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นอัลโค อิงค์ หลังจากมีการคาดการณ์ว่าบริษัทริโอทินโตจะยื่นข้อเสนอเทคโอเวอร์กิจการอัลโค นอกจากนี้ ดาวโจนส์ยังได้ปัจจัยบวกจากรายงานที่ว่ายอดสั่งซื้อของอุตสาหกรรมโรงงานในสหรัฐปรับตัวสูงขึ้น

ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อใหม่ของโรงงานอุตสาหกรรมในสหรัฐขยายตัว 3% ในเดือนมี.ค. แตะระดับ 4.629 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งบ่งชี้ว่าการฟื้นตัวของภาคการผลิตยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจสหรัฐ

อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวนตลอดทั้งวัน โดยดาวโจนส์ขยับขึ้นเพียงเล็กน้อย ขณะที่ดัชนี Nasdaq และ S&P 500 ปิดลบ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการที่อ่อนของบริษัทเอกชน และหลังจากธนาคารกลางอินเดียประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.5% เป็น 7.25% จากระดับ 6.75% ในการประชุมเมื่อวานนี้ เพื่อควบคุมภาวะเงินเฟ้อในประเทศ

หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงหลังจากราคาน้ำมันดิบ NYMEX ดิ่งลงกว่า 2 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ โดยหุ้นเอ็กซอนโมบิลปิดร่วง 0.74% หุ้นเชฟรอนปิดลบ 0.90% ส่วนหุ้นซิลเวอร์ วีตอน ซึ่งเป็นบริษัทผลิตโลหะพื้นฐาน ปิดร่วง 4..09% หลังจากราคาโลหะเงินในตลาดโลกปรับตัวลดลง

หุ้นไฟเซอร์ปิดร่วง 2.74% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการไตรมาสแรกที่ต่ำเกินคาด ขณะที่หุ้นบีเซอร์ โฮมส์ ซึ่งเป็นบริษัทรับสร้างบ้าน ปิดลบ 5% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่อ่อนแอเนื่องจากยอดขายบ้านในสหรัฐปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม หุ้นเจนเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) ปิดพุ่ง 2.52% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายรถยนต์เดือนเม.ย.ทะยานขึ้น 27%

ทางการสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ โดยวันพุธ ADP Employer Services จะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนทั่วสหรัฐเดือนเม.ย. และสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) จะเปิดเผยดัชนีภาคบริการและดัชนีกิจกรรมทางธุรกิจเดือนเม.ย.

วันพฤหัสบดี ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเปิดเผยข้อมูลประสิทธิภาพการผลิตและต้นทุนแรงงานต่อหน่วยประจำไตรมาสแรกปีนี้ และกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ส่วนวันศุกร์ กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (nonfarm payrolls) เดือนเม.ย.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ