ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (3 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันในตลาดโลกร่วงลงอย่างหนัก อันเนื่องมาจากการประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางอินเดีย นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ร่วงลงหลังจากมีรายงานว่ารัฐบาลเยอรมนีอาจปรับขึ้นภาษีบริษัทรถยนต์
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปรับตัวลง 26.94 จุด หรือ 0.36% ปิดที่ 7,500.70 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 7,446.83-7,523.68 จุด ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปรับตัวลง 11.93 จุด หรือ 0.29% ปิดที่ 4,096.84 หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 4,070.69-4,107.76 จุด ดัชนี FTSEurofirst 300 หุ้นบลูชิพในตลาดยุโรปลดลง 0.53% ปิดที่ 1,150.81 จุด และดัชนี Stoxx 600 ลดลง 0.5% ปิดที่ 282.43 จุด
หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงตามราคาน้ำมันในตลาดโลก เนื่องจากความกังวลที่ว่าการใช้มาตรการคุมเข้มด้านการเงินของอินเดียซึ่งเป็นผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่ของโลก อาจส่งผลกระทบต่ออุปสงค์พลังงาน โดยเมื่อวานนี้ธนาคารกลางอินเดียประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.5% เป็น 7.25% จากระดับ 6.75% พร้อมกับคาดการณ์ว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจอินเดียอาจชะลอตัวลงสู่ระดับ 7.4-8.5% หากราคาน้ำมันเคลื่อนไหวโดยเฉลี่ยที่ 110 ดอลลาร์/บาร์เรลในปีนี้
ทั้งนี้ หุ้นดรากอน ออยล์ ปิดร่วง 4.3% หุ้นปิโตรเลียม จีโอ-เซอร์วิส เอเอสจี ปิดลบ 4.1%
หุ้นกลุ่มผลิตรถยนต์ปิดร่วงลงหลังจากกระทรวงสิ่งแวดล้อมเยอรมนีเปิดเผยว่า รัฐบาลเตรียมปรับขึ้นภาษีบริษัทรถยนต์ โดยหุ้นโฟล์คสวาเก้นปิดร่วง 1.7% หุ้นเดมเลอร์ เอจี ปิดลบ 1.6% หุ้นเฟียตปิดร่วง 2.1%
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ดิ่งลง โดยหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ปิดร่วง 1.5% หุ้นอันโตฟากัสต้าปิดลบ 2.6% และหุ้นคาซัคมิสปิดร่วง 3.4% หลังจากมีการคาดการณ์ว่าบริษัทริโอทินโตจะยื่นข้อเสนอเทคโอเวอร์กิจการอัลโค