นายขจรพงศ์ คำดี กรรมการผู้จัดการ บมจ. เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ(EARTH) เปิดเผยว่า ในปี 54 ตั้งเป้าปริมาณขายถ่านหิน 1.2 ล้านตัน หรือเติบโต 50% จากปีก่อนที่มีปริมาณขายถ่านหินที่ 8 แสนตัน
ทั้งนี้ ปัจจุบันมีสัดส่วนลูกค้าในประเทศ 40% ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าโรงงานอุตสาหกรรมผลิตปูนซีเมนต์ ไฟฟ้า กระดาษ ส่วนลูกค้าต่างประเทศ 60% ซึ่งเป็นลูกค้ารายใหญ่จากประเทศจีน 3 ราย
นอกจากนั้น ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับลูกค้าจากประเทศเกาหลีใต้ 1 ราย โดยต้องการให้ส่งมอบถ่านหินจำนวน 6 แสนตัน/ปี คาดว่าจะมีข้อสรุปใน 1-2 เดือน ซึ่งอาจทำให้บริษัทต้องทบทวนเป้าปริมาณขายถ่านหินในปีนี้ที่ตั้งไว้เดิมที่ 1.2 ล้านตัน และยังมีการเจรจากับลูกค้าประเทศอินเดีย โดยมีการส่งสเป็คสินค้าให้พิจารณาแล้ว
นายขจรพงษ์ กล่าวว่า บริษัทยังอยู่ระหว่างการเจรจาซื้อเหมืองถ่านหินในประเทศอินโดนีเซีย 1 แห่ง โดยมีปริมาณการสำรองถ่านหิน 5 ล้านตัน คาดว่าใช้เงินลงทุนมูลค่า 200 ล้านบาท ส่วนข้อสรุปขึ้นอยู่กับการเจรจา
สำหรับราคาขายถ่านหินในประเทศเฉลี่ยปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 2,500-3,000 บาท/ตัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่อยู่ 2,300-2,700 บาท/ตัน มองว่าราคาขายถ่านหินในตลาดโลกยังมีแนวโน้มขาขึ้น เนื่องจากอิงจากราคาน้ำมันและความต้องการในตลาด ซึ่งหาก 2 ปัจจัยยังเพิ่มขึ้น ยังจะหนุนให้ราคาถ่านหินในตลาดโลกปรับสูงขึ้น จากไตรมาส 1/54 ราคาถ่านหินเฉลี่ยอยู่ที่ 85 ดอลลาร์/ตัน
นายขจรพงศ์ กล่าวว่า รายได้ในปี 54 คาดว่าจะเติบโตหลายร้อยเปอร์เซ็นต์ จากปีก่อนมีรายได้รวมอยู่ที่ 1,800 ล้านบาท ซึ่งไตรมาส 1/54 บริษัทมีรายได้รวมแล้ว 900 ล้านบาท
และบริษัทอยู่ระหว่างก่อสร้างโรงงานแห่งที่ 2 อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา คาดว่าเริ่มการผลิตได้ในไตรมาส 3-4/54 โดยมีกำลังการผลิต 60,000-80,000 ตัน/เดือน จากปัจจุบันโรงงานที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี มีกำลังการผลิต 60,000 ตัน/เดือน
สำหรับราคาหุ้นของบริษัทที่จะกลับมาเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์วันแรกในวันที่ 18 พ.ค.54 ราคาจะขึ้นลงได้โดยไม่มีการกำหนดเพดาน จากราคาหุ้นเดิมของ บมจ.แอดวานซ์ เพ้นท์ เคมีคัล (ไทยแลนด์) (APC)ที่ปิดครั้งสุดท้ายเมื่อปี 48 ที่ 0.60 บาท โดยเชื่อว่านักลงทุนจะอิง P/E ของอุตสาหกรรมเป็นหลัก และมี P/E ใกล้เคียงหุ้นบมจ.เอเชีย กรีน เอนเนอจี(AGE)มากที่สุดที่ 34 เท่า