ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ หลังราคาน้ำมันร่วงฉุดหุ้นพลังงานดิ่ง

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลดลงติดต่อกันเป็นวันที่สามเมื่อคืนนี้ (5 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกร่วงลงอย่างหนัก นอกจากนี้ ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปยังได้รับแรงกดดันจากจำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 8 เดือน

ดัชนี CAC 40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศส ปิดลบ 1% แตะที่ 4,004.87 จุด

ดัชนี DAX 30 ปิดเกือบทรงตัวที่ระดับ 7,376.96 จุด

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดลบ 0.3% แตะที่ 277.79 จุด

นักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกดิ่งลงอย่างหนัก อันเนื่องมาจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ โดยเมื่อคืนนี้ ดัชนีดอลลาร์ (Dollar Index) ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับ 6 สกุลเงินที่เป็นคู่ค้าหลักของสหรัฐ พุ่งขึ้นสู่ระดับ 73.639 จุด จากวันก่อนที่ระดับ 73.095 จุด

ทั้งนี้ หุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานรายใหญ่สุดของยุโรปปิดร่วง 1.8% หุ้นเอสซาร์ เอนเนอร์จี ซึ่งเป็นบริษัทกลั่นน้ำมันรายใหญ่อันดับสองของอินเดีย ปิดร่วง 5.2%

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังได้รับปัจจัยลบจากรายงานที่ว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 30 เม.ย.ของสหรัฐ พุ่งขึ้น 43,000 ราย แตะระดับ 474,000 ราย ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่กลางเดือนส.ค.ปีที่แล้ว และสวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 410,000 ราย

หุ้นลอยด์ แบงกิ้ง ซึ่งเป็นธนาคารปล่อยกู้เพื่อการซื้อบ้านรายใหญ่สุดของอังกฤษ ร่วงลง 8% หลังจากธนาคารเปิดเผยตัวเลขขาดทุนในไตรมาสแรก ซึ่งรายงานดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มธนาคาร โดยหุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ปิดร่วง 2.9% หุ้นธนาคารโซซิเอเต เจนเนอรัล (ซอคเจน) ร่วงลง 5%

อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นยุโรปสามารถดีดตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในระหว่างวันได้ เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่ขานรับธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ที่ตัดสินใจตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ 1.25% ในการประชุมเมื่อวานนี้ ขณะที่นายฌอง-คล้อด ทริเชต์ ประธานอีซีบีไม่ได้ส่งสัญญาณว่าอีซีบีจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งหน้า แม้อัตราเงินเฟ้อในยูโรโซนเดือนเม.ย.พุ่งแตะ 2.8% ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่ธนาคารกลางยุโรปกำหนดไว้ที่ 2%