ล่าสุด(5 พ.ค.)ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนมิ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดที่ 99.80 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 9.44 ดอลลาร์หรือ 8.64%
บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย)ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"ซื้อ"หุ้น บมจ.การบินไทย(THAI)ราคาเหมาะสม 46.00 บาท เนื่องจากราคาน้ำมันดิบทั่วโลกปรับฐานลงแรงตลอด 2 วันทำการที่ผ่านมา แม้ว่าเช้าวันนี้ราคาน้ำมันดิบ NYMEX จะฟื้นตัวขึ้นมายืนเหนือ US$100/barrel แล้วก็ตาม แต่เป็นประเด็นบวกต่อหุ้นกลุ่มสายการบิน เพราะมีต้นทุนหลักมาจากราคาน้ำมัน
ทั้งนี้ ประเมินกำไรใน 1Q54 เพียง 700 ล้านบาท ลดลง 76% qoq และ 9% yoy เนื่องจาก 1) ผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 3,300 ล้านบาท จากค่าเงินยูโรที่แข็งค่าขึ้นกว่า 7% จากไตรมาสก่อน (บริษัทมีหนี้สกุลยูโรที่ยังไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงราว 78% ของพอร์ท), 2) ต้นทุนน้ำมันที่คาดพุ่งสูงขึ้นกว่า 20% yoy เป็น 1.74 หมื่นล้านบาท ตามทิศทางราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก,
3) แต่รายได้ค่าโดยสาร (passenger yield) คาดเพิ่มขึ้นแค่ 8% yoy เป็น 2.77 บาท/RPK ตามการปรับเพิ่มค่า Fuel Surcharge ที่ยังมีความล่าช้า (time lag) อยู่, และ 4) จำนวนผู้โดยสาร RPK ลดลง 3.5% yoy จากการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นของสายการบินต้นทุนต่ำ และจากตะวันออกกลางที่มีการส่งเสริมการขายต่อเนื่อง
แม้ว่าแนวโน้มใน 2Q54 จะยังไม่ฟื้นตัว qoq เนื่องจากผลกระทบเหตุการณ์สึนามิและแผ่นดินไหวในญี่ปุ่น ทำให้ Cabin Factor ของญี่ปุ่นลดลงจาก 75% เหลือเพียง 54% ก็ตาม แต่ราคาหุ้นได้สะท้อนปัจจัยดังกล่าวไปมากแล้ว
และหากเทียบ Trialing PER ของหุ้นสายการบินในภูมิภาคเอเชีย พบว่า THAI ซื้อขายที่ PER10 ต่ำเพียง 4.18x เทียบกับภูมิภาค 11.09x หรือหากประเมินจาก P/BVPS พบว่า THAI ซื้อขายเพียง 1.0x เทียบกับ ภูมิภาค 2.45x ทำให้ความถูกของ THAI กลับมามีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น
ด้านบล.โกลเบล็ก แนะ"ซื้อเก็งกำไร"หุ้น THAI ให้ราคาเป้าหมายตาม Consensus ไว้ที่ 47.65 บาท เนื่องจาก THAI รับผลดีราคาน้ำมันลดลงแรงกว่า 9 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล คาดต้นทุนการดำเนินงานลดลง
ล่าสุด(4 พ.ค.)ราคาหุ้น THAI ปิดที่ 37.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท (+0.67%)มูลค่าซื้อขาย 248.76 ล้านบาท