แหล่งข่าวจากคณะกรรมการ บมจ.ไทยออยล์(TOP)เปิดเผยกับ "อินโฟเควสท์"ว่า ยอมรับว่าคณะกรรมการได้มอบหมายให้บริษัทศึกษาการเข้าซื้อกิจการของบมจ.เอสโซ่(ปรเทศไทย)(ESSO)อย่างจริงจัง เพราะเห็นโอกาสในการลงทุนเนื่องจากโรงกลั่นมีพื้นที่ติดกัน ถือเป็นเรื่องที่ดีหากเข้าซื้อกิจการ
อย่างไรก็ตาม การพูดคุยในที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทยังคงเป็นเพียง การศึกษารายละเอียดในการเข้าซื้อกิจการ ผลกำไรและผลตอบแทนที่จะได้จากการลงทุน โดย TOP จำเป็นต้องเดินไปข้างหน้าเพื่อสร้างบริษัทให้มีขนาดใหญ่ขึ้น เพราะภายหลังการควบรวมกิจการระหว่าง บมจ.ปตท.อะโรเมติกส์และการกลั่น(PTTAR)และ บมจ.ปตท.เคมีคอล(PTTCH) ทำให้ TOP กลายเป็นบริษัทที่มีขนาดเล็กเกือบที่สุดในกลุ่ม จึงจำเป็นต้องขยายการลงทุน ซึ่งนอกจากจะศึกษาการซื้อกิจการ ESSO แล้ว บริษัทยังมองหาการลงทุนในธุรกิจด้านอื่นๆด้วย
"ตอนนี้การซื้อ ESSO ยังไม่ได้มีความชัดเจนเรื่องขนาดตัวเลข สัดส่วนการซื้อหุ้น แต่เป็นเพียงการศึกษากิจการของเขาว่ามีข้อดีข้อเสียยังไงบ้าง สมัยผมบริหารก็เคยเจรจากับ ESSO แต่ก็คุยกันไม่รู้เรื่องไม่ได้ข้อสรุป แต่วันนี้นำมาศึกษาใหม่ เราก็ต้องศึกษา Benefit การ Synergy ร่วมกันว่าดีไม่ดีอย่างไร เรื่องแบบนี้ต้องใช้เวลากว่าจะสรุป ตอนนี้ก็ยังไม่ได้คุยกับ ESSO เลย"แหล่งข่าว กล่าว
เช้านี้หนังสือพิมพ์รายงานว่า TOP จะเข้าซื้อ ESSO จาก Exxon Mobil ในสัดส่วน 65% คาดว่าจะใช้เงินลงทุนราว 5 หมื่นล้านบาท ซึ่งปัจจุบัน ESSO มีกำลังการกลั่นที่ 1.77 แสนบาร์เรล/วัน หากเข้าซื้อกิจการสำเร็จ TOP จะมีกำลังการกลั่นเพิ่มขึ้นเป็น 5.4 แสนบาร์เรล/วัน คาดว่ากระบวนการเข้าซื้อกิจการจะแล้วเสร็จภายใน 3 เดือน
บทวิเคราะห์ บล.ฟาร์อีสท์ แนะนำ TOP เราเห็นว่า ราคาหุ้น TOP ที่ระดับปัจจุบัน 81.50 บาท เป็นระดับที่น่าสนใจสำหรับการเข้าซื้อสะสมเพื่อการลงทุน เนื่องจากมุมมองต่อกำไรสุทธิที่เติบโตโดดเด่นในปี 2554 นอกจากนี้ เรายังเชื่อมั่นว่า TOP จะซื้อ ESSO ได้สำเร็จในอนาคต เรายังคงราคาเป้าหมายปี 2554 ไว้ที่ 90.15 บาท
ล่าสุด(4 พ.ค.)ราคาหุ้น TOP ปิดที่ 81.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท (+0.31%)
ราคาหุ้น ESSO ปิดที่ 11.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท (+3.77%)