ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,050.85 จุด ลดลง 23.02 จุด(-2.14%) มูลค่าการซื้อขาย 49,835.01 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดทั้งวัน โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,064.10 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,048.63 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 107 หลักทรัพย์ ลดลง 361 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 81 หลักทรัพย์
น.ส.อาภาภรณ์ แสวงพรรค ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงแรง จากการที่ตลาดโลกมีการ take profit สินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆ ทั้งน้ำมัน ทองคำ ทำให้กระทบต่อตลาดหุ้นไทยค่อนข้างมาก เนื่องจากด้วยโครงสร้างของตลาดหุ้นไทยมีหุ้นที่อิงกับสินค้าโภคภัณฑ์ถึง 35% ของตลาดรวม
ประกอบกับ การปรับพอร์ตของนักลงทุนต่างชาติหลังหุ้นปรับตัวขึ้นมามากแล้ว ทำให้มีการ take profit ออกมาเช่นกัน กลุ่มที่ถูกขายออกมาหนักๆก็จะมีพลังงาน ปิโตรเคมี และธนาคารพาณิชย์ ซึ่งมีน้ำหนักรวมกันเกือบ 50% ของตลาด จึงทำให้ตลาดหุ้นไทยปรับลงแรง และถือว่า underperform ตลาดภูมิภาคไปมาก
ส่วนเรื่องการเมืองก็ยังต้องติดตามต่อว่าจะมีการประกาศยุบสภาเมื่อใด เพราะช่วงเช้าที่นายกฯออกมาระบุว่าจะมีการทูลเกล้าพ.ร.ฎ.ยุบสภาในวันนี้ ปัจจุบันก็ยังไม่มีความคืบหน้าออกมาเพิ่มเติม
แนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้า น.ส.อาภาภรณ์ กล่าวว่า เนื่องจากตลาดฯตอนนี้ปรับตัวลงมาเร็วและแรง ซึ่งถ้าเป็นทางเทคนิคก็เหมือนกับเป็นการ oversold เพราะฉนั้นในระยะสั้นอาจจะมีการเทคนิเคิลรีบาวน์ แต่ถ้ารีบาวน์น้อยก็อาจจะทำให้ปรับตัวลงต่อได้ พร้อมให้แนวรับ 1,030 และ 1,020 และ 1,010 จุด แนวต้าน 1,060 และ 1,070 และ 1,080 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
JAS มูลค่าการซื้อขาย 4,830.32 ล้านบาท ปิดที่ 2.76 บาท ลดลง 0.96 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 4,221.07 ล้านบาท ปิดที่ 347.00 บาท ลดลง 14.00 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,427.86 ล้านบาท ปิดที่ 170.50 บาท ลดลง 8.00 บาท
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 2,206.35 ล้านบาท ปิดที่ 718.00 บาท ลดลง 8.00 บาท
CPF มูลค่าการซื้อขาย 1,934.92 ล้านบาท ปิดที่ 28.25 บาท ลดลง 1.50 บาท