ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (9 พ.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มโลหะ หลังจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลก รวมถึงราคาน้ำมัน ทะยานขึ้นแข็งแกร่ง ซึ่งปัจจัยดังกล่าวช่วยลดผลกระทบจากข่าวสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของกรีซ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 45.94 จุด หรือ 0.36% แตะที่ 12,684.68 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดขยับขึ้น 6.09 จุด หรือ 0.45% แตะที่ 1,346.29 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดบวก 15.69 จุด หรือ 0.55% แตะที่ 2,843.25 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 3 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 2 ต่อ 1
หุ้นกลุ่มพลังงานทะยานขึ้นหลังจากราคาน้ำมันดิบ NYMEX พุ่งขึ้น 5.37 ดอลลาร์ หรือ 5.5% แตะที่ 102.55 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อคืนนี้ โดยหุ้นเบเกอร์ ฮิวจ์ อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทขุดเจาะน้ำมันและก๊าซนอกชายฝั่ง ปิดพุ่ง 3.4% หุ้นมาราธอน ออยล์ คอร์ปปิดพุ่ง 5.3% ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานที่คำนวณในดัชนี S&P 500 ทะยานขึ้นเกือบ 2%
หุ้นกลุ่มโลหะพุ่งขึ้นหลังจากราคาโลหะเงินในตลาดนิวยอร์กทะยานขึ้นแข็งแกร่ง โดยราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลกทะยานขึ้นถ้วนหน้าเพราะได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์และกระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในซีเรีย
หุ้นซิสโก คอร์ป ซึ่งเป็นผู้จัดจำหน่ายอาหารรายใหญ่ของสหรัฐพุ่งขึ้น 10.7% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้ทะยานขึ้น 4% ขณะที่หุ้นแมคโดนัลด์ปิดบวก 0.8% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายปรับตัวสูงขึ้นในเดือนเม.ย. อย่างไรก็ตาม หุ้นไทสัน ฟู้ดส์ ปิดลบ 6% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายทรงตัวจากปีที่แล้ว
การพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มโลหะสามารถลบผลกระทบจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ยุโรป หลังจากเอสแอนด์พีประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของกรีซลงสู่ระดับ B จากระดับ BB- เนื่องจากความกังวลที่ว่ารัฐบาลกรีซอาจต้องขอความช่วยเหลือด้านการเงินเพิ่มเติม และอาจจำเป็นต้องปรับโครงสร้างหนี้
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันอังคาร กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยราคานำเข้าและส่งออกเดือนเม.ย. และกระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลสต็อกสินค้าภาคค้าส่งเดือนมี.ค. วันพุธ กระทรวงพาณิชย์จะสหรัฐเปิดเผยข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนมี.ค. และกระทรวงการคลังสหรัฐเปิดเผยงบประมาณของรัฐบาลกลางเดือนเม.ย.
วันพฤหัสบดี กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนเม.ย., กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนเม.ย., กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และกระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนมี.ค. ส่วนวันศุกร์ กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนเม.ย.