โบรกเกอร์หนุน"ซื้อ"บมจ.ไทยคม(THCOM)หลังจากไอพีสตาร์ได้งานโครงการบรอดแบรนด์แห่งชาติออสเตรเลียมูลค่า 100 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย พร้อมทั้งคาดปีนี้พลิกกลับมามีกำไรครั้งแรกในรอบ 6 ปี หลังไอร์พี่สตาร์เข้าสู่จุดคุ้มทุน ลุ้นครึ่งปีหลังมีโอกาสจ่ายปันผล หลังเริ่มเห็นกำไรตั้งแต่ไตรสมาส 2/54
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย(บาท/หุ้น)
บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย) ซื้อ 8.70
บล.เกียรตินาคิน ซื้อ 8.10
บล.กสิกรไทย ซื้อ 13.50
บล.ฟาร์อีสท์ ซื้อ 7.90
นายกิจพล ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย แนะ"ซื้อ"หุ้น THCOM โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 13.50 บาท เนื่องจากบริษัทกลับมาเติบโตอย่างมีนัยสำคัญปีนี้จะกลับมามีกำไร 148 ล้านบาท หลังจากขาดทุนต่อเนื่องมาหลายปี
และยังประเมินว่าจะมีกำไรต่อเนื่องในปี 55 ที่ 447 ล้านบาท และปี 56 จะมีกำไร 1,033 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเติบโตภายหลังไอร์พีสตาร์เข้าสู่จุดคุ้มทุนหลังการทำการตลาดในประเทศญี่ปุ่นและอินเดียประสบความสำเร็จคาดปีนี้รายได้เติบโตจากปีก่อนเท่าตัว รวมทั้งได้งานใหม่จากประเทศออสเตรเลียหนุนรายได้อีก
สำหรับผลประกอบการไตรมาส 1/54 คาดว่าการขาดทุนจะลดลง และในไตรมาส 2/54 จะเริ่มกลับมามีกำไร ส่วนครึ่งปีหลังจะเห็นกำไรต่อเนื่องและจะสามารถจ่ายปันผล โดยบล.กสิกรไทยประเมินว่าจะมีการจ่ายปันผลจากการดำเนินงานงวดครึ่งปีหลัง เพราะที่ผ่านมา THCOM เป็นบริษัทที่มีกระแสเงินสดดีมาก แต่ติดปัญหาเรื่องผลขาดทุนสุทธิ จึงทำให้ไม่สามารถจ่ายปันผลได้
ส่วนปัญหาเรื่องสัญญาสัมปทานเชื่อว่าจะไม่มีความรุนแรงถึงขั้นยึดสัมปทาน เนื่องจากที่ผ่านมา THCOM ไม่เคยขอปรับลดส่วนแบ่งรายได้ เหมือนเช่นกรณีของ ITV จึงไม่น่าจะมีปัญหา ส่วนการสร้างหรือเช่าดาวเทียมดวงใหม่เพื่อทดแทนไทยคม 5 ที่ใกล้เต็มกำลังการผลิตนั้นไทยคมเองก็มีความพร้อม
นางสาวปิยะธิดา สนธิสมบัติ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย) คงคำแนะนำ "ซื้อ"หุ้น THCOM เพราะยังมี upside ถึง 20% เมื่อเทียบกับราคาเหมาะสมที่ประเมินด้วยวิธี DCF ซึ่งอยู่ที่ 8.70 บาท และยังต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชีที่ 13.4 บาท
อย่างไรก็ตาม คาดว่างวดไตรมาส 1/54 THCOM จะขาดทุนปกติ 96 ล้านบาท แต่ถือว่าดีกว่าทั้งงวดเดียวกันของปีก่อนและดีกว่าไตรมาสก่อนด้วย ทั้งยังมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องในงวดในไตรมาส 2/54 และคาดจะเริ่มพลิกเป็นกำไรปกติในช่วง 2H54 จากปริมาณการใช้งานดาวเทียมไอพีสตาร์ที่สูงขึ้น และคาดว่าปีนี้จะถึงจุดคุ้มทุนที่ 20% หลังจากได้โครงการบรอดแบนด์แห่งชาติออสเตรเลียที่ยังไม่ได้รวมในประมาณการ คาดว่ามีการจะประกาศและเซ็นสัญญากับผู้ที่ได้รับเลือกเป็นผู้ให้บริการภายใน พ.ค.—มิ.ย. 2554 นี้ คาดว่ามีการใช้งานไอพีสตาร์ไม่ต่ำกว่า 2.5%
บวกกับในช่วงครึ่งปีหลังจะมีการเซ็นสัญญาเพิ่มในตลาดอินเดียที่ 2 เมกะบิตหรือราว 5% ของกำลังการให้บริการของไอร์พีสตาร์ จะทำให้คาดว่าโดยรวมทั้งปี 2554 จะมีกำไรปกติราว 66 ล้านบาท ถือเป็นการพลิกมามีกำไรปกติเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปี
นักวิเคราะห์บล.เกียรตินาคิน แนะ"ซื้อ"หุ้น THCOM ปรับประมาณการเพิ่มขึ้นจาก 7.80 บาท หลังจากเซ็นสัญญาโครงการบรอดแบรนด์แห่งชาติของประเทศออสเตรเลีย(NBN)มูลค่าประมาณ 100 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย อายุสัญญา 5 ปี จะเริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.54 เป็นต้นไป โดยบริษัทจะทยอยรับรู้รายได้ประมาณ 20 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลียต่อปี หรือประมาณ 600 ล้านบาทต่อปี
ทั้งนี้ ยังมั่นใจปีนี้ผลประกอบการจะพลิกเป็นกำไร คาดปีนี้การเติบโตของธุรกิจไอพีสตาร์จะหนุนผลประกอบการพลิกเป็นกำไร 22 ล้านบาท โดยโครงการ NBN จะเห็นผลบวกผลประกอบการเต็มปีในปีหน้า ขณะที่มูลค่าเพิ่มจากโครงการนี้ ทำให้ THCOM มีมูลค่าเหมาะสมใหม่เท่ากับ 8.10 บาท มี upside 12%
ผลประกอบการไตรมาส 1/54 คาดว่าผลประกอบการปกติจะขาดทุน 113 ล้านบาท (ไม่รวมรายการพิเศษ) ลดลงจากขาดทุน 128 ล้านบาทในไตรมาส 1/53 และขาดทุน 161 ล้านบาทในไตรมาส 4/53 จากรายได้ธุรกิจดาวเทียมเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะรายได้การใช้งาน Bandwidth ของไอพีสตาร์ขณะที่ต้นทุนและค่าใช้จ่ายเพิ่มในอัตราน้อยกว่า เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นต้นทุนคงที่
แนวโน้มไตรมาส 2/54 ไอพีสตาร์ยังมีโมเมนตัมบวกต่อจากญี่ปุ่น เดือน มี.ค.53 THCOM เซ็นสัญญาให้บริการในประเทศญี่ปุ่น และเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่เดือน เม.ย.53 ทั้งนี้ การให้บริการในปีแรก บริษัทฯ ลดราคา 50% ในกับลูกค้า ซึ่งเงื่อนไขนี้ครบกำหนดแล้วเมื่อ มี.ค.54 ทำให้ในไตรมาส 2/54 เป็นต้นไป รายได้จะมีปัจจัยบวกเพิ่มจากการปรับราคาการใช้ Bandwidth ในประเทศญี่ปุ่น โดยปีนี้คาดว่าญี่ปุ่นจะมีการใช้งาน Bandwidth เพิ่มขึ้นกว่า 2,000 Mbps คิดเป็นอัตราการใช้งาน 4-5%