แหล่งข่าวจากที่ปรึกษาทางการเงิน บมจ.โสมาภา อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า ตามแผนที่ทำไว้คาดว่า โสมาภาฯ จะเสนอขายหุ้น IPO ได้ไม่เกินไตรมาส 3/54 โดยบริษัทฯคาดหวังว่าจะสามารถระดมทุนกว่า 100 ล้านบาท พร้อมกับกล่าวว่าผลประกอบการงวดไตรมาส 1/54 ออกมาอยู่ในเกณฑ์ที่ดีกว่างวดเดียวกันของปีก่อน(Q1/53)
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)เปิดเผยว่า บมจ.โสมาภา อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี ได้ยื่น Filing version แรก เมื่อวันที่ 9 พ.ค.54 เนื่องจากบริษัทฯต้องการจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชนทั่วไป(IPO) จำนวน 80 ล้านหุ้น ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 20 ของทุนจดทะเบียนของบริษัท โดยบริษัทฯมีความประสงค์จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ และมีบริษัท แคปปิตอล ลิ้งค์ แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
บริษัทฯมีวัตถุประสงค์ในการนำเงินที่ได้ไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับใช้ในการดำเนินโครงการต่าง ๆ และเพื่อใช้ขยายธุรกิจการบริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยมีระยะเวลาในการใช้เงินภายในไตรมาส 4/54
บมจ.โสมาภา อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ดังนี้ การพัฒนาและวางระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ, การออกแบบและพัฒนาโปรแกรม, การให้บริการจากภายนอก, การให้บริการเป็นที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และการใหบริรอื่นเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ
กลุ่มบริษัทประกอบด้วย บริษัท คอมมาน คอนโทรล เทคโนโลยี จำกัด ดำเนินธุรกิจผลิตและพัฒนาซอฟแวร์ต่าง ๆ ในระบบเทคโนโลยีสารสนเทศตามความต้องการของลูกค้า โดยบริษัทถือหุ้นร้อยละ 99 ของทุนจดทะเบียน, บริษัท กลกร จำกัด ดำเนินธุรกิจเป็นผู้ดำเนินการโครงการพัฒนาเครื่องหมายการเสียภาษีประจำปีรูปแบบใหม่ หรือ Smart RFID ให้กับกรมการขนส่งทางบก โดยบริษัทถือหุ้นร้อยละ 75 ของทุนจดทะเบียน, MIKOH Corporation Limited เป็นผู้ให้บริการด้านระบบรักษาความปลอดภัยชั้นนำของโลก ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ออสเตรเลีย โดยบริษัทถือหุ้นร้อยละ 0.69 ของทุนจดทะเบียนเรียกชำระแล้ว
ผลการดำเนินงานในปี 53 บริษัทฯมีรายได้รวม 186.21 ล้านบาท สินทรัพย์รวม 273.14 ล้านบาท หนี้สินรวม 208.03 ล้านบาท ส่วนของผู้ถือหุ้น 46.39 ล้านบาท
ณ วันที่ 31 มี.ค.54 บริษัทมีผู้ถือหุ้นหลัก ได้แก่ ตระกูลโสมาภา และบุคคลที่เกี่ยวข้องตามมาตรา 258 ในสัดส่วนร้อยละ 51.54 ของทุนจดทะเบียนที่เรียกชำระแล้วในปัจจุบันของบริษัทฯ ทั้งนี้สัดส่วนการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นหลักจะลดลงเหลือร้อยละ 41.23 ภายหลังจาการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชน
ปัจจุบัน บริษัทฯมีทุนจดทะเบียนทั้งสิ้น 100 ล้านบาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญทั้งหมด 400 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท โดยแบ่งเป็นทุนจดทะเบียนที่เรียกชำระแล้ว 320 ล้านหุ้น ทั้งนี้ บริษัทฯมีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และสำรองตามกฎหมายแล้ว