ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กแรงขายหุ้นเหมือง,พลังงานฉุดดาวโจนส์ร่วง 130.33 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday May 12, 2011 06:42 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (11 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนกระหน่ำขายหุ้นกลุ่มพลังงานและเหมืองแร่ หลังจากราคาน้ำมันดิบ NYMEX ร่วงลงหลุดจากระดับ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งเป็นผลมาจากรายงานที่ว่า สต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐพุ่งขึ้นติดต่อกัน 3 สัปดาห์และความต้องการน้ำมันเบนซินหดตัวลงติดต่อกันยาวนานถึง 7 สัปดาห์ นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับปัจจัยลบจากรายงานที่ว่ายอดขาดดุลการค้าเดือนมี.ค.ของสหรัฐเพิ่มขึ้นอย่างมาก และการขยายตัวของผลผลิตภาคอุตสาหกรรมในประเทศจีนชะลอตัวลงในเดือนเม.ย.

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดร่วงลง 130.33 จุด หรือ 1.02% แตะที่ 12,630.03 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดลบ 15.08 จุด หรือ 1.11% แตะที่ 1,342.08 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดลบ 26.83 จุด หรือ 0.93% แตะที่ 2,845.06 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 3.8 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วน 3 ต่อ 1

นักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มพลังงานหลังจากราคาน้ำมันดิบ NYMEX ร่วงลงหลุดจากระดับ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อคืนนี้ หลังจาก IEA รายงานว่าสต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐพุ่งขึ้นติดต่อกัน 3 สัปดาห์ และความต้องการน้ำมันเบนซินหดตัวลงติดต่อกันยาวนานถึง 7 สัปดาห์ ซึ่งบ่งชี้ว่า ผู้บริโภคเริ่มลดการใช้จ่ายด้านเชื้อเพลิงในขณะที่ราคาน้ำมันเบนซินโดยเฉลี่ยทั่วประเทศเคลื่อนไหวอยู่ที่ 4 ดอลลาร์ต่อแกลลอน (3.79 ลิตร)

นักวิเคราะห์ในตลาดวอลล์สตรีทกล่าวว่า การที่ผู้บริโภคและภาคธุรกิจลดการใช้จ่ายด้านพลังงานถือเป็นการส่งสัญญาณด้าลบต่อเศรษฐกิจ และอาจทำให้ผลประกอบการของบริษัทพลังงานอ่อนแอลงด้วย โดยการร่วงลงของราคาน้ำมันดิบและน้ำมันเบนซินเมื่อคืนนี้ ได้ฉุดดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานดิ่งลง 3% ซึ่งเป็นการร่วงลงหนักสุดในบรรดาหุ้นอุตสาหกรรม 10 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P 500 โดยหุ้นเดนบูรี รีซอสเซส อิงค์ และหุ้นคาโบท์ ออยล์ แอนด์ แก๊ส ปิดร่วงลงกว่า 4%

ส่วนหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลงหลังจากราคาทองแดงในตลาดโลกร่วงลง 3.2% และราคาโลหะเงินดิ่งลง 7.7% โดยหุ้นฟรีพอร์ท แมคมอร์แกน คอปเปอร์ แอนด์ โกลด์ ปิดร่วง 5.6%

หุ้นดีสนีย์ปิดร่วงลง 54% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงรุนแรงที่สุดในบรรดาหุ้นบลูชิพ 30 ตัวที่คำนวณในดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เนื่องจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในญี่ปุ่นส่งผลให้รายได้ของสวนสนุกดีสนีย์ในญี่ปุ่นลดลงอย่างมาก

อย่างไรก็ตาม หุ้นอเมริกัน อินเตอร์เนชันแนล กรุ๊ป อิงค์ (AIG) ปิดพุ่ง 3.5% หลังจากมีรายงานว่ารัฐบาลสหรัฐจะขายหุ้น 1.66 ล้านหุ้น มูลค่า 200 ล้านดอลลาร์ใน AIG

ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงกดดันจากรายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐที่ระบุว่า ยอดขาดดุลการค้าเดือนมี.ค.พุ่งขึ้นแตะระดับ 4.82 หมื่นล้านดอลลาร์ จากเดือนก.พ.ที่ระดับ 4.54 หมื่นล้านดอลลาร์ และหลังจากทางการจีนระบุว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนเม.ย.ขยายตัว 13.4% เมื่อเทียบเป็นรายปี ลดลงจากเดือนมี.ค.ที่สามารถขยายตัวได้ถึง 14.8%

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันพฤหัสบดี กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนเม.ย., กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนเม.ย., กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และกระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนมี.ค. ส่วนวันศุกร์ กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนเม.ย.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ