BANPU เผยกำไร Q1/54 พุ่ง 237%จากราคาถ่านหินสูง-กำไรขายหุ้นในจีน

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday May 12, 2011 09:31 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.บ้านปู(BANPU)เปิดเผยงานผลประกอบการประจำไตรมาส 1/54 มีกำไรสุทธิ 9,163 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 237 เนื่องจากผลการดำเนินงานที่ดีของธุรกิจถ่านหินในประเทศอินโดนีเซีย และปริมาณขายถ่านหินที่เพิ่มขึ้นหลังการเข้าซื้อ Centennial Coal ในประเทศออสเตรเลีย รวมทั้งการบันทึกกำไรจากการขายเหมืองถ่านหินต้าหนิงในประเทศจีน

นายชนินท์ ว่องกุศลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BANPU กล่าวว่า กำไรสุทธิในไตรมาส 1/54 จำนวน 9,163 ล้านบาท ประกอบด้วยกำไรจากธุรกิจถ่านหินจำนวน 8,829 ล้านบาท และธุรกิจไฟฟ้าจำนวน 334 ล้านบาท ซึ่งกำไรสุทธิที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น อย่างมีนัยสำคัญ (จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า) นั้น ส่วนหนึ่งมาจากการจำหน่ายเงินลงทุนทั้งหมดในเหมืองถ่านหินต้าหนิง ประเทศจีน ที่บริษัทฯ รับรู้กำไรหลังหักภาษีจำนวน 6,307 ล้านบาท

ในขณะที่กำไรจากธุรกิจถ่านหินปรับตัวสูงขึ้น จากปริมาณขายถ่านหินที่เพิ่มขึ้นหลังเข้าซื้อกิจการบริษัท Centennial Coal เมื่อปลายปี 2553 ที่ผ่านมา

นอกจากนี้ ยังได้รับผลดีจากราคาขายถ่านหินเฉลี่ยจากแหล่งผลิตในประเทศอินโดนีเซียที่ปรับตัวสูงขึ้นเป็น 87.39 เหรียญสหรัฐต่อตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 32 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า เป็นผลจากราคาถ่านหินในตลาดภูมิภาคที่ปรับตัวสูงขึ้น

"กำไรจากธุรกิจหลักถือว่าอยู่ในระดับที่ดี โดยเฉพาะธุรกิจถ่านหิน ราคาขายถ่านหินเฉลี่ยที่สูงขึ้นของแหล่งผลิตในอินโดนีเซียช่วยชดเชยภาระต้นทุนน้ำมันดีเซลที่ปรับตัวสูงขึ้นร้อยละ 29 จากไตรมาส 4/53 เป็น 0.93 เหรียญสหรัฐต่อลิตร ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจถ่านหินในอินโดนีเซียปรับตัวสูงขึ้นเป็นร้อยละ 47 จากร้อยละ 45 ในปีก่อนหน้า ส่วนธุรกิจถ่านหินในออสเตรเลียมีผลการดำเนินงานที่ราบรื่น อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวสูงขึ้นเช่นกัน เป็นร้อยละ 38 จากร้อยละ 32 ในไตรมาสก่อนหน้า"นายชนินท์ กล่าว

ในไตรมาส 1/54 ที่ผ่านมา บ้านปูฯ มีปริมาณการผลิตและขายถ่านหินจำนวน 9.1 ล้านตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 47 จากงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า แบ่งเป็นปริมาณการผลิตและขายจากแหล่งผลิตในอินโดนีเซียจำนวน 5.4 ล้านตัน และ ออสเตรเลียจำนวน 3.7 ล้านตัน โดยมีรายได้จากการขายรวม 24,178 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8,927 ล้านบาท หรือร้อยละ 59 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า แบ่งเป็นรายได้จากการจำหน่ายถ่านหินจำนวน 22,716 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 94 ของรายได้จากการขายรวม ซึ่งเป็นผลจากปริมาณและราคาขายถ่านหินที่เพิ่มขึ้น ส่วนรายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้าและไอน้ำจากโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม 3 แห่งในประเทศจีน และรายได้อื่นๆ มีจำนวน 1,462 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 6 ของยอดขายรวม อย่างไรก็ตาม ส่วนแบ่งกำไรจากโรงไฟฟ้าบีแอลซีพี มีจำนวน 529 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 47 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า เนื่องจากราคารับซื้อไฟฟ้าในปีนี้ปรับลดลงตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า และมีการบันทึกขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 20 ล้านบาท ในขณะเดียวกันโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม 3 แห่งในประเทศจีนรายงานกำไรสุทธิจานวน 126 ล้านบาท ลดลงจาก 250 ล้านบาทในไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ