โบรกเกอร์ เห็นพ้อง"ซื้อ"หุ้น บมจ.ไออาร์พีซี(IRPC)มองราคาหุ้นยังขึ้นไปไม่มาก เล็งกำไรเติบโตก้าวกระโดดจากโครงการ Phoenix หลังจากที่เริ่มรับรู้รายได้เต็มที่ในปี 2557-2558 ซึ่งปัจจัยพื้นฐานของ IRPC จะมีการ Pick up อย่างเห็นได้ชัด จากกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น และยังได้มูลค่าเพิ่มในตัวผลิตภัณฑ์อีกด้วย
นอกจากนี้ จะเห็นได้ว่าผลประกอบการงวดไตรมาส 1/54 ของ IRPC มีการเติบโตที่ดี และคาดว่าจะยังเติบโตดีต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปีนี้(2554)ด้วย จากราคาปิโตรเคมีที่ยังคงทรงตัวอยู่ในเกณฑ์ที่ดี และธุรกิจโรงกลั่นก็ยังดีต่อเนื่องจากไตรมาส 1/54 ด้วย ประกอบกับยังได้รับผลดีจากการขายน้ำมันดีเซลและน้ำมันเตาให้กับญี่ปุ่น เพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าทดแทนโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่มีปัญหาและหยุดดำเนินการไป
พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิปีนี้(2554)ไว้ในช่วง 7.87-9.33 พันล้านบาท เติบโตจากปี 2553 ที่มีกำไรสุทธิ 6.18 พันล้านบาท
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย(บาท/หุ้น) บล.ไทยพาณิชย์ ซื้อ 8.00 บล.ทรีนีตี้ ซื้อ 7.95 บล.ยูไนเต็ด ซื้อ 7.50 บล.ยูโอบี เคย์เฮียน ซื้อ 7.20 บล.เอเชีย พลัส ซื้อ 7.16 บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) ซื้อ 7.10 บล.โนมูระ พัฒนสิน ซื้อ 7.02 บล.ฟินันเซีย ไซรัส ซื้อ 7.00 บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย) ซื้อเก็งกำไร 6.90 บล.บัวหลวง ซื้อ 6.80
นายสุกิจ อุดมสิริกุล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน ลูกค้าบุคคล และสายงานวิจัย บล.ไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ปัจจัยพื้นฐานของ IRPC มองเป็นหุ้นที่เหมาะแก่การลงทุนระยะยาว เนื่องจากผลประกอบการจะมีการเติบโตดีมากจากโครงการ Phoenix โดยเฉพาะเมื่อแล้วเสร็จทั้งโครงการนี้จะทำให้ IRPC ได้กำลังการผลิตเพิ่ม และยังได้มูลค่าเพิ่มจากตัวผลิตภัณฑ์ด้วย ซึ่งพื้นฐานของ IRPC ก็จะ Pick up อย่างเห็นได้ชัด ผลประกอบการจะมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด
นอกจากนี้ จะเห็นได้ว่าผลประกอบการงวดไตรมาส 1/54 ของ IRPC มีการเติบโตที่ดี และคาดว่าจะยังเติบโตดีต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปีนี้(2554)ด้วย จากราคาปิโตรเคมีที่ยังคงทรงตัวอยู่ในเกณฑ์ที่ดี และธุรกิจโรงกลั่นก็น่าจะยังดีต่อเนื่องจากไตรมาส 1/54 ด้วย และหากมองราคาหุ้น IRPC จะเห็นได้ว่าราคาหุ้นปรับตัวขึ้นไปยังไม่มาก
พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิปีนี้(2554)ไว้ที่ 9,337 ล้านบาท เติบโตจากปี 2553 ที่มีกำไรสุทธิ 6,183 ล้านบาท หลัก ๆ มาจากธุรกิจโรงกลั่น และราคาปิโตรเคมีที่อยู่ในเกณฑ์ที่ดี
น.ส.ศศิกร เจริญสุวรรณ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย)แนะนำ"ซื้อ"หุ้น IRPC ให้ราคาเป้าหมายไว้ที่ 7.10 บาท/หุ้น คิดเป็น P/BV ที่ 1.8 เท่า ซึ่งยังต่ำกว่ากลุ่มโรงกลั่นอื่น ทั้งมองว่าผลประกอบการงวดไตรมาส 2/54 ยังน่าจะมีการเติบโตได้ดีต่อเนื่องจากไตรมาส 1/54 อันเนื่องมาจากค่าการกลั่น และราคาปิโตรเคมีที่ยังดีอยู่ ประกอบกับยังได้รับผลดีจากการขายน้ำมันดีเซลและน้ำมันเตาให้กับญี่ปุ่น เพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าทดแทนโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่มีปัญหาและหยุดดำเนินการไป
นอกจากนี้ IRPC ยังจะได้รับผลกำไรที่เติบโตดี ภายหลังจากโครงการ Phoenix แล้วเสร็จ ซึ่งจะสามารถเพิ่มกำลังการผลิตให้กับ IRPC ได้มาก แต่โครงการ Phoenix มีแบ่งแยกย่อยหลายโครงการ ซึ่งมี 5 โครงการย่อยจะเริ่มทยอยขยายกำลังการผลิตได้ตั้งแต่ปี 2555-2557 และในปี 2558 ก็จะมีอีกหนึ่งโครงการที่จะให้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นได้มาก
อย่างไรก็ดี ในระยะสั้นนี้ผลประกอบการของ IRPC ในปี 2554-2555 ก็อาจจะยังมีการเติบโตที่ยังไม่ได้สูงมาก โดยปีนี้(2554)คาดว่า IRPC จะมีกำไรสุทธิ 7.87 พันล้านบาท เติบโต 27.3% จากปี 2553 ที่มีกำไรสุทธิ 6.18 พันล้านบาท ซึ่งผลประกอบการปีนี้คงจะรับผลบวกจากค่าการกลั่นและราคาปิโตรเคมีที่ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดีอยู่
ด้านบล.ทรีนีตี้ ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะนำ"ซื้อ"หุ้น IRPC ราคาเป้าหมาย 7.95 บาท อิง PER ปี 2554 ที่ 15 เท่า เนื่องจากมองว่า IRPC เป็นหุ้นขนาดใหญ่ที่ยังคงอัตราการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง และผลิตภัณฑ์มีการกระจายความเสี่ยงในระดับที่สูง โดยเชื่อว่าระยะยาวกำไรของ IRPC จะเติบโตก้าวกระโดดหลังจากที่เริ่มรับรู้รายได้จากการลงทุนในโครงการ Phoenix เต็มที่ในปี 2014-2015