GLOW คาดผลงาน H2/54 ฟื้นตัวดีหลังเปิดโรงไฟฟ้าความร้อนร่วม

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday May 12, 2011 11:49 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสุทธิวงศ์ คงสิริ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายการเงิน บมจ.โกลว์ พลังงาน(GLOW) คาดว่า ผลประกอบการในในครึ่งหลังปี 54 จะแข็งแกร่งขึ้น หลังกลุ่มบริษัทจะเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์โรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงขนาด 382 เมกะวัตต์ซึ่งจะเริ่มดำเนินการในเดือนก.ย. 54 หากไม่มีปัจจัยอื่นมาเปลี่ยนแปลง

สำหรับผลประกอบการในไตรมาส 1/54 บริษัทมีรายได้รวม 8,930 ล้านบาท กำไรก่อนดอกเบี้ยจ่ายภาษีเงินได้และค่าเสื่อมราคา (EBITDA) 2,259 ล้านบาท กำไรสุทธิก่อนรวมกำไรหรือขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนสุทธิ(NNP)จำนวน 1,003 ล้านบาท และกำไรสุทธิ จำนวน 952 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1.67 พันล้านบาท

ทั้งนี้ กำไรก่อนดอกเบี้ยจ่ายภาษีเงินได้และค่าเสื่อมราคา (EBITDA) และกำไรสุทธิก่อนรวมกำไรหรือขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนสุทธิ (NNP) สำหรับไตรมาส 1/54 เทียบกับไตรมาส 4/53 เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.1 และร้อยละ 5.5 ตามลำดับ แต่เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/53 ลดลงร้อยละ 12.5 และร้อยละ 26.7 ตามลำดับ ทั้งนี้กลุ่มบริษัทมีการบันทึกขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนสุทธิจำนวน 51 ล้านบาท ในไตรมาส 1/54

ปัจจัยหลักที่ทำให้กำไรก่อนดอกเบี้ยจ่ายภาษีเงินได้และค่าเสื่อมราคา (EBITDA) เพิ่มขึ้นมาจากความต้องการพลังงานของกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ความต้องการไฟฟ้าและไอน้ำของลูกค้าอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นร้อยละ 15 และร้อยละ 5 ตามลำดับ เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/53 ทั้งนี้แม้จะมีปัจจัยบวกจากความต้องการพลังงานของกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้นก็ตาม แต่ปัจจัยลบหลายประการก็ส่งผลกระทบต่อผลประกอบการในไตรมาส 1/54 เช่นกัน

ขณะที่โรงไฟฟ้าถ่านหินโรงใหม่ขนาด 115 เมกะวัตต์ ที่ได้เริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ตั้งแต่ต้นเดือน พ.ย.53 และได้มีการเดินเครื่องตามปกติตลอดไตรมาส 1/54 ที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังได้มีการทำสัญญาเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้นอีกด้วย

“ผลประกอบการในไตรมาส 1/54 เป็นที่น่าพอใจ จากการเติบโตของความต้องการของลูกค้าอุตสาหกรรมทั้งไฟฟ้าและไอน้ำ แต่ในทางตรงกันข้ามการแข็งค่าของเงินบาท ซึ่งส่งผลกระทบต่อรายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้าให้แก่ กฟผ. การลดลงของอัตราค่าไฟฟ้าผันแปร (FT) 0.0567 บาทต่อหน่วยสำหรับงวดเดือนมกราคมถึงเมษายน และการเพิ่มขึ้นของต้นทุนเชื้อเพลิงถ่านหินถือเป็นปัจจัยลบสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของบริษัท

นอกจากนี้ ผลประกอบการของธุรกิจไอพีพียังลดลงจากสาเหตุหลัก 2 ประการคือ การครบกำหนดระยะเวลาการยกเว้นภาษีสิทธิประโยชน์ที่ได้รับจากบีโอไอ ของบจ. โกลว์ ไอพีพี และผลกระทบจากโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำในประเทศลาว (โรงไฟฟ้า ห้วยเหาะ) ซึ่งมีปริมาณน้ำฝนมีน้อยผิดปกติในช่วงฤดูฝนที่ผ่านมา"นายสุทธิวงศ์ กล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ