บมจ.ไทยคม(THCOM) ยอมรับว่าผลประกอบการไตรมาส 2/54 ยังขาดทุน แต่น่าจะขาดทุนลดลงครึ่งหนึ่งจากไตรมาส 1/54 ขาดทุนสุทธิ 167.09 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิต่อหุ้น 0.15 บาท เนื่องจากไตรมาสนี้จะรับรู้รายได้จากบริการไอพีสตาร์ในญี่ปุ่นที่ราคาไม่มีส่วนลด
และผลประกอบการของบริษัทเริ่มพลิกเป็นกำไรตั้งแต่ไตรมาส 3/54 หลังจากรับรู้รายได้จากงานใหม่ที่เพิ่งเซ็นสัญญาในออสเตรเลียที่จะเริ่มเข้ามาในช่วงปลายไตรมาส 3/54 ถึงต้นไตรมาส 4/54 ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้ผลประกอบการปึนี้พลิกเป็นกำไรได้ ประกอบกับมีการรับรู้รายได้บริการไอพีสตาร์ที่ญี่ปุ่นเต็มที่ทั้งปี จากปีก่อนที่รับรู้รายได้ในช่วง 3 ไตรมาสหลัง
อนึ่ง เมื่อ 6 พ.ค.ที่ผ่านมา บริษัท ไอพีสตาร์ ออสเตรเลีย พีทีวาย จำกัด(IPA) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ THCOM ได้เซ็นสัญญากับบริษัท เอ็นบีเอ็น จำกัด(NBN) เพื่อให้บริการดาวเทียม (Interim Satellite Service) สำหรับโครงข่ายบรอดแบนด์แห่งชาติของออสเตรเลีย ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.54 เป็นต้นไป สัญญานี้มีมูลค่าถึง 100 ล้านเหรียญออสเตรเลีย
นายธนฑิต เจริญจันทร์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการลงทุน THCOM กล่าวว่า บริษัทคาดว่ารายได้ในปี 54 จะเติบโต 30% จากปีก่อน ในปัจจุบันบริษัทยังมียอดสัญญารอให้บริการ(contact backlog)อยู่ประมาณ 274 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 8 พันล้านบาท และในปีนี้ตั้งงบลงทุนไว้ราว 200 ล้านเหรียญ ซึ่งจะใช้ในการขยายเกตเวย์ของไอพีสตาร์ และการลงทุนด้านอุปกรณ์ NBN ที่ออสเตรเลีย
สำหรับความคืบหน้าในการยิงดาวเทียมไทยคม 6 ปัจจุบันอยู่ระหว่างการคัดเลือกผู้เข้ามาจัดสร้าง แต่ทั้งนี้ยังไม่สามารถประเมินได้ว่าจะได้ข้อสรุปการเจรจากับภาครัฐได้เมื่อใด ทั้งนี้ ในเบื้องต้นบริษัทคาดว่าจะใช้เงินลงทุนกว่า 100 ล้านเหรียญ ส่วนหนึ่งจะมาจากกระแสเงินสดที่มีอยู่ ณ สิ้นเดือน มี.ค.ที่ 1.7 พันล้านบาท อีกส่วนหนึ่งจะมาจากเงินกู้ แต่ยังไม่มีความจำเป็นต้องออกหุ้นกู้
ส่วนกิจการของบริษัท ลาวเทเลคอม ที่เตรียมจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นลาว คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายใน 2-3 เดือนข้างหน้า
"เรื่องการเข้าตลาดฯ ภายใน 2-3 เดือนข้างหน้าน่าจะได้ข้อสรุป แต่ตอนนี้เราก็ต้องหาคำตอบให้ได้ก่อนว่าเงินที่ได้จะเอาไปทำอะไร แต่เราก็สนใจที่จะเข้าไประดมทุนในตลาดหุ้นลาว"นายธนฑิต กล่าว