นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการบริหาร บมจ.ศุภาลัย (SPALI) เปิดเผยว่า ยอดขายของบริษัทถือว่าเติบโตค่อนข้างมาก โดยในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้มียอดขายรอโอน(Backlog)เกิน 2 หมื่นล้านบาทแล้ว และคาดว่าจะรับรู้รายได้ในปีนี้ราว 6.5 พันล้านบาท และที่เหลือจะทยอยรับรู้ในปีถัดไป น่าจะส่งผลดีต่อรายได้รวมในปีนี้ที่ตั้งเป้าหมายไว้ในระดับ 1.4 หมื่นล้านบาท และยอดขาย 1.7 หมื่นล้านบาท ขณะเดียวกันบริษัทก็จะรักษาอัตรากำไรสุทธิปีนี้ 22 - 23 %
ปัจจุบัน บริษัทมีโครงการใหม่ที่จะทยอยเปิดขายในช่วงไตรมาส 2/54-ไตรมาส 4/54 จำนวน 13 โครงการ รวมมูลค่าโครงการ 17,380 ล้านบาท จากทั้งหมด 14 โครงการที่จะเปิดตัวในปีนี้ แบ่งเป็นแนวราบ 10 โครงการ แนวสูง 4 โครงการ
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าจากมาตราการภาครัฐในการกู้ 0% ของธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.)จะส่งผลดีต่อบริษัทให้ลูกค้าตัดสินใจในการซื้อบ้านเร็วขึ้น โดย 72% ของพอรต์ เป็นราคาขายบ้าน-คอนโด ระดับต่ำกว่า 3 ล้านบาท
"ยอดขายในไตรมาส 2/54 เราดีกว่าไตรมาส 1/54 ที่ผ่านมาที่มียอดขาย 2.2 พันล้านบาทแน่ๆ เพราะมีคนเข้ามาดูตลอดและตัดสินใจ ซึ่งมาตราการของภาครัฐก็เป็นอีกส่วนที่กระตุ้นได้ค่อนข้างมาก และปัจจุบันเรามีลูกค้าบางส่วนที่อยู่ในโครงการดังกล่าว จึงทำให้เรามองว่าในปีนี้จะเป็นปีที่ดีของเราอีกปี"นายไตรเตชะ กล่าว
นายไตรเตชะ กล่าวว่า บริษัทมีแผนจะเพิ่มสัดส่วนรายได้จากโครงการในต่างจังหวัดเป็น 15% ของรายได้ทั้งหมดในปี 55 จากปีนี้ที่คาดว่าจะอยู่ที่ 10% ซึ่งเป็นช่องทางเพิ่มรายได้ให้กับบริษัทจากปกติที่เน้นพัฒนาโครงการในกทม. โดยปัจจุบันบริษัทได้ซื้อที่ดินเพื่อพัฒนา 2 โครงการในต่างจังหวัด โดย 1 แห่งอยู่ใน จ.ชลบุรี คาดว่าจะเริ่มเปิดดำเนินการได้ในต้นปีหน้า รวมทั้งการเปิดโครงการเพิ่มในจังหวัดที่บริษัทมีอยู่เดิม
ขณะที่งบซื้อที่ดินในปี 54 บริษัทปรับเพิ่มมาที่ 4,500 ล้านบาท จากปีก่อน 4,200 ล้านบาท แต่ปัจจุบันยังใช้ไม่ถึง 1 ใน 3 ของงบที่ดินทั้งหมด รวมทั้งคาดว่าจะมีการซื้อเพิ่มในอนาคตเพื่อสำรองในการพัฒนาโครงการในปีนี้- ปีหน้า
นายไตรเตชะ กล่าวต่อว่า บริษัทมีโอกาสที่จะปรับราคาขายบ้านอีก 2-3 % ในช่วงที่เหลือ จากก่อนหน้านี้ที่ได้มีการปรับไปแล้ว 2-3% ซึ่งขึ้นอยู่กับต้นทุนวัสดุก่อสร้างเป็นหลัก แต่ทั้งปีคงเฉลี่ยปรับขึ้นไม่เกิน 4-5 % เช่นเดียวกับต้นทุนเฉลี่ยที่ปรับขึ้น 4-5%