SAMARTคาดกำไรปี 54 ดีกว่าปีก่อน-รายได้รวมโตเกือบ 50% หลังรวมงาน 3G

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday May 12, 2011 16:21 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.สามารถ คอร์ปอเรชั่น (SAMART) คาดว่ากำไรในปี 54 จะดีกว่าปีก่อน จากการที่บริษัทได้งานสร้างโครงข่าย 3G ของบมจ.ทีโอที ทำให้กำไรของบริษัทในช่วง 3 ไตรมาสที่เหลือของปีนี้เติบโตขึ้นมากจากไตรมาส 1/54

ส่วนรายได้รวมปีนี้ตั้งเป้าที่ 2.7-2.8 หมื่นล้านบาท โดยรวมรายได้จากงานสร้างโครงข่าย 3G คิดเป็นเติบโตเกือบ 50% จากปีก่อนที่มีรายได้ 1.7-1.8 หมื่นล้านบาท โดยคาดว่าจะรับรู้รายได้จากงานวางโครงข่าย 3G เป็นเงิน 10,400 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้รายได้ในปีนี้ประมาณ 7.5 พันล้านบาท ที่เหลือรับรู้ในปีหน้า

"กำไรในไตรมาส 1 ต่ำสุด แต่ในไตรมาส 2, 3, 4 น่าจะเติบโตเยอะ เพราะมี 3G ในกลุ่ม SAMART จะได้เห็น record ใหม่ จะเห็นรายได้ในไตรมาส 2 ถึงไตรมาส 4 จะมีรายได้เติบโตก้าวกระโด เชื่อว่าปีนี้กำไรน่าจะโตกว่าปีก่อน" นายวัฒน์ชัย กล่าว

โครงการนี้กลุ่ม SAMART ได้ร่วมกับ บมจ.ล็อกซเล่ย์ (LOXLEY) ในสัดส่วน 65% และ 35% ตามลำดับ โดยมีโนเกีย และ หัวเหว่ย เป็นซัพพลายเออร์ ซึ่งในส่วนของบริษัทรับผิดชอบการวางโครงข่ายในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล รวมภาคากลาง และตะวันออก เริ่มตั้ดตั้งในเดือน มิ.ย.นี้ โดยได้รับสนุนสินเชื่อจากธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย

และบริษัทได้เสริมศักยภาพด้านการเงินเพิ่มเติม จากการออกตั๋วบี/อี 500 ล้านบาท และอาจพิจารณาออกเพิ่มเติมตามความจำเป็น

นายวัฒน์ชัย กล่าวว่า หากบริษัทติดตั้งโครงข่าย 3G ได้เร็ว ก็จะมีผลดีต่อรายได้ของบริษัท โดยระยะเวลา 180 วันแรกจะต้องติดตั้งโครงข่ายให้แล้วเสร็จในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 1,772 สถานีฐาน และอีก 180 วันถัดไปต้องทยอยติดตั้งในต่างจังหวัด คาดว่าในไตรมาส 3/54 จะเปิดให้บริการ 3G ได้บางส่วน ประมาณ 300-500 สถานี ซึ่งจะทำให้ในกรุงเทพฯจะมี 1,000 สถานีฐาน และทำให้การใช้บริการ 3G ดีขึ้น

นายไพโรจน์ วโรภาษ รองประธานกรรมการบริหาร บมจ.สามารถเทลคอม(SAMTEL) เปิดเผยว่า บริษัทได้ปรับเป้ารายได้ในปี 54 เป็น 1.5 หมื่นล้านบาทจากเดิมตั้งเป้าไว้ที่ 8 พันล้านบาท เนื่องจากบริษัทได้รับงานวางโครงข่าย 3G เข้ามาประมาณ 7.5 พันล้านบาทในปีนี้

นอกจากนี้ บริษัทเตรียมเข้าประมูลงานอีก 20 โครงการ รวมมูลค่า กว่า 3 หมื่นล้านบาท คาดหวังจะได้รับงานราว 30%

ด้านนายธนานันท์ วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.สามารถไอโมบาย(SIM) กล่าวว่า ในปลายไตรมาส 2/54 ถึงต้นไตรมาส 3/54 จะเปิดบริการใหม่ 3GX ความเร็ว 42 เมกะบิต เป็นบริการอินเตอร์แอคทีฟ คอลล์เซ็นเตอร์ แห่งแรกของไทย เพื่อให้บริการกับผู้ใช้บริการ 3G

นอกจากนี้ ในปีนี้จะพยายามออกสินค้าใหม่ที่เป็น แทบเล็ตพีซี กับสมาร์ทโฟน ที่มีราคาเฉลี่ยสูงกว่าราคาโทรศัพท์มือถือทั่วไปเข้ามาขายมากขึ้น เนื่องจากในไตรมาส 1/54 มีรายได้ลดลง เนื่องจากราคาโทรศัพท์เฉลี่ย 1,300-1,400 บาท/เครื่องลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน รวมทั้งจะเน้นธุรกิจโมบาย มัลติมีเดีย ที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการนำเสนอบริการ MVNO ซึ่งต่อไปจะให้บริการครอบคลุมทั่วประเทศ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ